นายธงชัย บุศราพันธ์ รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายในปี 65 กลับมาแตะระดับ 1 หมื่นล้านบาทอีกครั้ง หลังจากที่ปีนี้ยอดขายพลาดเป้า 1.1 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะทำได้เพียง 7.7 พันล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธ์เดลต้าที่ทำให้ต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์กระทบการขายและการเปิดโครงการใหม่ในปีนี้
ขณะที่บริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่จำนวนมากในปี 65 เพื่อกลับมารุกตลาดอีกครั้ง หลังจากมองเห็นถึงสัญญาณบวกของภาวะเศรษฐกิจ หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง และกลับมาเปิดประเทศได้แล้ว ประกอบกับภาครัฐผ่อนคลายมาตรการ LTV ทำให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมที่เห็นการค่อย ๆ ฟื้นตัว
ในปี 65 บริษัทวางแผนจะเปิดโครงการใหม่จำนวน 18 โครงการ มูลค่ารวม 4.74 หมื่นล้านบาท ทั้งคอนโดมิเนียมและแนวราบ โดยมีโครงการบางส่วนเลื่อนเปิดมาจากปี 64 เชื่อว่าจะช่วยหนุนการกลับมาฟื้นตัวของยอดขายในปีหน้า
ด้านรายได้ในปี 65 ตั้งเป้าไว้ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปี 64 ที่คาดว่าจะทำรายได้ราว 8 พันล้านบาท โดยจะมาจากการโอนโครงการที่อยู่ในยอดขายรอโอน (Backlog) เข้ามาจำนวนกว่า 5.7 พันล้านบาท จาก Backlog ทั้งหมดที่มีอยู่ราว 1 หมื่นล้านบาท พร้อมกับยังมีการโอนโครงการแนวราบที่เปิดใหม่ ซึ่งเป็นโครงการที่จะเปิดขายและรับรู้รายได้เข้ามาได้ทันทีมาเสริม
นายธงชัย กล่าวว่า ในปี 65 จะมีโครงการแนวราบที่เปิดขายและรับรู้รายได้เข้ามาทันทีเสริมต่อเนื่องมาจากปีนี้ และยังมีการทยอยขายโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในโครงการ NOBLE BE19 และโครงการ NOBLE AROUND33 ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาดูห้องจริงและเริ่มมีการทำสัญญาซื้อมากขึ้น หลังการผ่อนคลาย LTV
ด้านการลงทุนใหม่ในต่างประเทศ ในปีหน้าบริษัทอยู่ระหว่างการมองหาโอกาสเข้าซื้อสินทรัพย์ในอังกฤษเพิ่มเติม โดยสนใจอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าหรือบ้านมือสองเพื่อนำมาปล่อยเช่าหรือขายต่อ แต่ยังอยู่ระหว่างรอจังหวะเหมาะสม
นายธงชัย กล่าวว่า การลงทุนในต่างประเทศจะเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาเสริมในส่วนพอร์ตรายได้ประจำ หากมีโอกาสที่ราคาปรับสูงขึ้นก็สามารถขายและรับกำไรส่วนต่างเข้ามา เพื่อนำเงินไปใช้ต่อยอดธุรกิจ ขณะที่ในปี 65 บริษัทเตรียมแผนการออกหุ้นกู้ชุดใหม่วงเงิน 1.5 พันล้านบาท ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมแผนการออกหุ้นกู้กับที่ปรึกษาทางการเงิน โดยที่บริษัทจะนำเงินไปใช้ในการรองรับการขยายธุรกิจต่อไปด้วย