(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: แรงซื้อหุ้นน้ำมัน ดันดาวโจนส์ปิดพุ่ง 117.54 จุด

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มน้ำมันและกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาน้ำมันและราคาโลหะมีค่าพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 117.54 จุด หรือ 0.87% แตะระดับ   13,660.94 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 18.10 จุด หรือ 1.20% แตะระดับ 1,520.27 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 30.00 จุด หรือ 1.07% แตะระดับ 2,825.18 จุด 
           ปริมาณซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.50 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.53 พันล้านหุ้น
          นายจิม เฮอร์ริค นักวิเคราะห์จากบริษัทแบรดแอนด์โค กล่าวว่า "การที่ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นเหนือระดับ 97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในระหว่างวัน ก่อนที่จะถอยลงมาอยู่ที่ระดับ 96.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาทองคำที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 27 ปีนั้น ได้ช่วยกระตุ้นนักลงทุนให้ส่งคำสั่งซื้อเข้าหนุนหุ้นกลุ่มน้ำมันและเหมืองแร่"
          โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ทะยานขึ้น 3.1% ส่วนหุ้นโคเออร์ เดอ อลอง ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองทองคำและโลหะเงิน พุ่งขึ้น 13.5% ซึ่งนอกจากจะได้รับปัจจัยบวกจากราคาโลหะมีค่าที่พุ่งขึ้นแล้ว หุ้นดังกล่าวยังได้รับแรงหนุนจากการแสดงความคิดเห็นในด้านบวกจากนักวิเคราะห์ของแบร์สเติร์นส์
          อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในธนาคารและวาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่หลายแห่ง โดยเฉพาะซิตี้กรุ๊ปที่ประกาศการตั้งสำรองหนี้สูญในตลาดซับไพรม์เป็นวงเงินมูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์ ถึง 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ 
          เมื่อวานนี้ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส และ ฟิทช์ เรทติงส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของ ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ หลังจากธนาคารจำเป็นต้องกันสำรองหนี้สูญในตลาดซับไพรม์ โดยมูดีส์กล่าวว่า "การตั้งสำรองหนี้สูญอีก 8 พันล้านดอลลาร์ ถึง 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์จะส่งผลให้ซิตี้กรุ๊ปขาดทุนรายไตรมาสอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนการลาออกของนายชาร์ลส์ พรินซ์ ซีอีโอของซิตี้กรุ๊ป การแต่งตั้งเซอร์ วิน บิสชอฟฟ์ เป็นซีอีโอชั่วคราวนั้น สะท้อนให้เห็นว่า ซิตี้กรุ๊ปมีความคืบหน้าน้อยมากในเรื่องการวางแผน เรามองว่าคณะผู้บริหารและบอร์ดของซิตี้กรุ๊ปกำลังเผชิญความท้าทายเรื่องการบริหารจัดการในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในขณะนี้"
          ทั้งนี้ หุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลง 2.3% อย่างไรก็ตาม หุ้นเจพีมอร์แกน เชสแอนด์โค หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา หุ้นวาโชเวีย หุ้นเวลส์ ฟาร์โก และหุ้นวอชิงตัน มิวช่วล พากันปรับตัวขึ้นถ้วนหน้า
           หุ้นกูเกิลพุ่งขึ้นหลังจากบริษัทวิจัยแซนฟอร์ด ซี. เบิร์นสไตน์ ประกาศปรับเพิ่มราคาเป้าหมายราคาหุ้นกูเกิลขึ้นสู่ระดับ 850 ดอลลาร์ จากเดิมที่ระดับ 741.79 ดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
          ส่วนหุ้นเทเน็ท-เฮลธ์แคร์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงพยาบาลรายใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้น 22.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่สดใส และหุ้นนอร์เทล เน็ทเวิร์คส์ ซึ่งเป็นผู้จัดหาอุปกรณ์ด้านการสื่อสารของแคนาดา ดีดขึ้น 2.90% ขานรับผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่งเช่นกัน