การเปิดเมืองทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่กลับมาเดินหน้าการผลิตอย่างเต็มที่ ทำให้การใช้ไฟฟ้าขยายตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งภาครัฐฯให้การสนับสนุนเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งต่างก็เป็นผลบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าทั้งสิ้น
นอกจากนี้ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ปรับแผน PDP ใหม่เร่งเพิ่มพลังงานสะอาด โดยได้ปรับเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดให้เร็วขึ้นในปี 2564-2573 ซึ่งจะเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มโรงไฟฟ้าหมุนเวียนไปด้วย โดยเบื้องต้นกบง.พิจารณา 10 ปีแรก ซึ่งจะบรรจุไว้ในแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยฉบับใหม่ (PDP 2565) ให้เพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดในระบบ โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และ 3 การไฟฟ้า ไปดูศักยภาพสายส่งเพื่อรองรับพลังงานสะอาดที่จะเข้าระบบเพิ่มขึ้น
เบื้องต้นจะเป็นการปรับลดสัดส่วนโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติลง 700 เมกะวัตต์ และจะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดเพิ่มขึ้นสุทธิ 1,000 เมกะวัตต์ ซึ่งสัดส่วนพลังงานสะอาดที่เพิ่มขึ้นหลังปรับแผน 10 ปี จะเพิ่มเป็น 26% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดจากปัจจุบันอยู่ที่ 23% หรือคิดเป็น 65% ของกำลังการผลิตใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นตลอด 10 ปีข้างหน้า
รวมถึงยังมีประเด็นการปรับขึ้นค่า Ft ตั้งแต่ไตรมาส 1/65 จะเป็นตัวหนุนต่ออัตราการทำกำไรหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ทั้ง EA, SSP, GPSC, BGRIM เป็นต้น
ดังนั้น ช่วงนี้จึงเห็นนักลงทุนต่างให้ความสนใจลงทุนหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้ากันอย่างมาก โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดกลาง-เล็ก ที่มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้ดี นักลงทุนต่างก็เข้ามาเล่นเก็งกำไรกันอย่างคึกคัก
10 หุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ให้อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (Return On Equity/ROE) มากที่สุด
หุ้น ROE (Q3/64) ROE (Q3/63) ข้อมูล ณ 24 พ.ย.64) (เท่า) (เท่า) P/E(เท่า) P/BV (เท่า) DY (%) ราคาหุ้น (บาท) GUNKUL 28.78 21.23 12.80 3.40 3.66 4.92 EA 19.88 22.77 52.65 9.77 0.37 80.50 SSP 17.89 17.67 15.72 2.60 0.08 13.20 SPCG 16.33 20.57 7.56 1.17 6.43 18.00 TPIPP 15.11 16.96 8.18 1.19 6.37 4.24 RATCH 12.15 8.54 8.48 0.97 5.27 45.50 ACE 11.28 16.76 26.75 2.88 1.31 3.66 SUPER 11.20 10.16 12.99 1.36 0.62 0.97 TSE 10.84 9.60 8.60 0.89 1.77 2.82 BCPG 10.15 13.23 18.33 1.49 2.01 13.20