BJC เผยปี 51มีแผนลงทุนกว่า 3พันลบ./ออกหุ้นกู้ 2-3 พันลบ.ช่วงครึ่งปีแรก

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 23, 2007 18:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายธีรศักดิ์ นาทีกาญจนลาภ กรรมการ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์(BJC) เปิดเผยว่า ในปี 51 บริษัทจะมีการลงทุนอีกไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท ทั้งในธุรกิจเดิม และขยายไปยังธุรกิจใหม่ รวมทั้ง ออกไปลงทุนยังต่างประเทศ โดยคาดว่าจะใช้เงินจากการออกหู้นกู้วงเงิน 2-3 พันล้านบาทในช่วงครึ่งปีแรก และ จากกำไรก่อนหักค่าดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อม(EBITDA)ในปีนี้ที่คาดว่าจะมีกว่า 2 พันล้านบาท  
"ช่วง 9 เดือนมี EBITDA ที่ 1.87 พันล้านบาทแล้ว จากที่ทำรายได้ไปแล้ว 1.65 หมื่นล้านบาท" นายธีรศักดิ์ กล่าว
บริษัทมีแผนใช้เงินลงทุนในธุรกิจเดิมราว 2.3 พันล้านบาท โดยจะใช้สร้างเตาเผาขวดแก้วประมาณ 1 พันล้านบาท และปรับปรุงเครื่องจักร 600 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตขวดแก้วจากเดิมที่ 2 พันตัน/วัน จะเพิ่มเป็น 2.4 พันตัน/วันในปี 51 หลังขยายเตาผลิต ส่วนที่เหลือจะใช้ลงทุนในกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภค
นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกจะลงทุนเข้าซื้อหุ้น บริษัท ไทยเบเวอร์เรจ แคน คาดว่าจะใช้เงินราว 1,074 ล้านบาท
นายธีรศักดิ์ กล่าวว่า บริษัทยังมีความสนใจที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มเติมอีก รวมทั้งการผลิตอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ แต่คงจะต้องรอโอกาสที่เหมาะสม
"ปี 51 เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ยังคาดหวังว่าธุรกิจยังจะเติบโต และเชื่อมั่นว่าจะเติบโตมากกว่า GDP เป็น 2 เท่า แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆ ด้วย" นายธีรศักดิ์ กล่าว
กรรมการบริษัท BJC กล่าวอีกว่า กระแสข่าวที่ผู้ถือหุ้นใหญ่จะเพิกถอนหุ้นของ BJC จากตลาดหลักทรัพย์ฯนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และตั้งแต่นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ข้ามาถือหุ้นใหญ่ บริษัทก็มีผลตอบแทนที่ต่อเนื่อง
พร้อมทั้งระบุว่า ในวันที่ 26 พ.ย.นี้บริษัทจะมีการประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งมีวาระการพิจารณาที่สำคัญ คือ การแตกพาร์จาก 10 บาทเหลือ 1 บาท เชื่อว่าจะช่วยเพิ่มฟรีโฟลตให้ดีขึ้น จากปัจจุบันที่มีฟรีโฟลตประมาณ 17%
"คาดหวังว่าการแตกพาร์จะสร้างความน่าสนใจ และสร้างโอกาสในการเข้าถือหุ้นเบอร์ลี่ฯกับนักลงทุนมากขึ้น" นายธีรศักดิ์ กล่าว
ด้านนายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการเงิน BJC กล่าวว่า บริษัทเห็นโอกาสที่จะออกไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาจะมีพันธมิตรต่างประเทศอยู่แล้ว แต่ในอนาคตการไปลงทุนเองจะมีแนวทางทั้งการสร้างโรงงาน การตั้งบริษัทในแถบที่สนใจโดยเฉพาะแถบอินโดจีน ซึ่งการลงทุนในเวียดนามมีความเป็นไปได้สูง
ส่วนผลประกอบการปี 50 บริษัทจะมีการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ