นายธนิสร นิติสาโรภาส รองกรรมการผู้จัดการสายงานการเงินและบัญชี บมจ.ชีวาทัย (CHEWA) เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 65 ไว้เบื้องต้นจำนวน 3 โครงการ ซึ่งบริษัทมีที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการใหม่อยู่แล้ว 3 แปลง โดยจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ และแนวราบ 1 โครงการ เนื่องจากบริษัทมองว่าแนวโน้มของภาคอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวดีขึ้นในปีหน้า หากการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ไม่ส่งผลกระทบมาก แต่ยังคงเป็นปัจจัยที่บริษัทต้องติดตามต่อไป
ดังนั้น บริษัทจึงมองแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 65 จะเห็นการฟื้นตัวขึ้นตามการตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่กลับมาหลังจากที่โควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง แม้ว่าจะยังมีความกังวลในเรื่องการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่เข้ามากระทบต่อความเชื่อมั่นอยู่บ้าง
อีกทั้งบริษัทยังเตรียมโอนคอนโดมิเนียมใหม่ 2 โครงการในช่วงไตรมาส 2/65 และไตรมาส 4/65 ได้แก่ โครงการชีวาทัย ปิ่นเกล้า มูลค่า 1.58 พันล้านบาท และโครงการฮอลมารค์ ลาดพร้าว-โชคชัย 4 เฟส 2 ซึ่งมียอดขายรวมกว่า 1.3 พันล้านบาท เชื่อว่าจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานให้ฟื้นตัวขึ้น
สำหรับปีนี้ยอมรับว่าผลกระทบโควิด-19 ที่มีอย่างต่อเนื่องเกือบตลอดทั้งปีส่งผลกระทบทำให้ยอดขายของบริษัทพลาดเป้าที่ตั้งไว้ 2.5 พันล้านบาท แม้ว่าแนวโน้มไตรมาส 4/64 ผลงานาจะฟื้นตัวกลับมาอย่างโดดเด่นหลังจากผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 3/64 โดยเฉพาะรายได้คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ดี จากการกลับมาโอนโครงการอีกครั้ง เนื่องจากมีโครงการที่เลื่อนโอนมาจากไตรมาสก่อน และบริษัทได้เร่งขายโครงการพร้อมอยู่ด้วยการเดินหน้าจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายเพื่อสร้างรายได้กลับมาให้เร็วขึ้น
ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการ LTV ทำให้กลุ่มคนที่มองหาคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุนเริ่มกลับเข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลบวกต่อบริษัท เพราะพอร์ตสินค้าส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียม ทำให้จะมีการซื้อจากกลุ่มลูกค้านักลงทุนกลับมา ขณะที่บริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) เข้ามากว่า 400 ล้านบาท จาก Backlog ที่มีอยู่ทั้งหมด 1.75 พันล้านบาท และในส่วนที่เหลือจะทยอยโอนในปี 65 ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะเข้ามาหนุนผลการดำเนินงานในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ให้โดดเด่น