นายไทยลักษณ์ ลี้ถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ยูนิมิต เอนจิเนียริ่ง(UEC)กล่าวว่า ในปี 51 ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 20% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ 1.8 พันล้านบาท หรือเติบโต 40% จากปี 49 ที่มีรายได้ 1.3 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนของปีนี้บริษัทมีรายได้แล้ว 1.38 พันล้านบาท
สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 4/50 เชื่อว่าจะมีรายได้เข้ามาเพิ่มอีก 400-500 ล้านบาทจากงานที่รอส่งมอบ และคาดว่าจะมีงานใหม่เข้ามาเพิ่มอีก 200-300 ล้านาท จากงานในมือ (Backlog)ที่มีอยู่ในปัจจุบัน 1.4 พันล้านบาท จะทำให้ Backlog เพิ่มขึ้นเป็น 1.7 พันล้านบาทช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งบริษัทก็จะมีการประมูลงานเพิ่มเติมอีก
นายไทยลักษณ์ กล่าวว่า ในปีหน้ารายได้ของบริษัทที่คาดว่าจะเติบโตขึ้นจะมาจากการสร้างโรงงานใหม่เพื่อผลิตสินค้าที่มีมูลค่าสูงกว่าปกติ และยังสามารถรองรับงานได้เพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าโรงงานใหม่จะเริ่มผลิตได้ภายในปีหน้า ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 2 หมื่นตัน/ปี จากสิ้นปีนี้ที่ 1.6 พันตัน/ปี
"หากโรงงานใหม่ run ได้ในปีหน้าเราก็คงจะเริ่มรับงานเข้ามาได้ในไตรมาส 1 เราจะผลิตถังที่มีความหนา 5 นิ้วสูงกว่าถังปกติ จึงทำให้เป็นสินค้าที่มีมูลค่าสูง ก็จะทำให้เราสามารถขายในราคาที่สูงขึ้นด้วย มาร์จิ้นก็จะสูงตาม จึงมองกว่าในปีหน้ามาร์จิ้นเราจะดีขึ้น โดยเราตั้งเป้าที่จะมี Net Profit Margin 15-20% จาก ณ ไตรมาส 3/50 อยู่ที่ 19% และ Gross Margin 25-30%" นายไทยลักษณ์ กล่าว
นายไทยลักษณ์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทยังเตรียมงบลงทุนในการซื้อเครื่องจักรเพื่อรองรับออเดอร์ที่เพิ่มขึ้นและซื้อที่ดินเพิ่ม 100 ล้านบาทในปีหน้า ซึ่งขณะนี้มองที่ดินไว้ในบริเวณ อ.มาบตาพุด จ.ระยอง หรือ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อใช้เป็นสถานที่ตั้งโรงงานประกอบถัง เพื่อสะดวกในการขนส่ง
"มองหาเพิ่ม 20-40 ไร่ แต่อาจเป็นการเช่าหรือซื้อก็ได้ โดยเม็ดเงินดังกล่าจะมาจากกำไรสะสมที่มีอยู่" นายไทยลักษณ์ กล่าว
ส่วนการที่บริษัทมีมติแตกพาร์มาที่ 0.25 บาท/หุ้นเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง เพราะเดิมสภาพคล่องน้อย เนื่องจากผู้ถือหุ้นไม่ยอมขายออก เมื่อแตกพาร์ก็ทำให้จำนวนหุ้นมากขึ้น และที่ผ่านมามีนักลงทุนต่างชาติสนใจที่จะเข้ามาซื้อหุ้นของบริษัท
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--