สำหรับโรงพยาบาลในประเทศ ได้แก่ โรงพยาบาลรามคำแหง 2 ขนาด 560 เตียง งบลงทุน 2,800 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 65 โดย RAM ถือหุ้น 35.35% โรงพยาบาลน่านราม ขนาด 141 เตียง บลงทุน 750 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 66 โดย RAM ถือหุ้น 14% และ โรงพยาบาลรามคำแหง 3 พระราม 3 ขนาด 210 เตียง งบลงทุน 750 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 67 ซึ่ง RAM ถือหุ้นทั้ง 100%
และสุดท้ายคือโรงพยาบาลเวียงจันท์ราม สปป.ลาว ขนาด 120-150 เตียง เงินลงทุน 600 ล้านบาท RAM ถือหุ้นในสัดส่วน 70% คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 67
นอกจากนี้ บริษัทยังมองหากการเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ และยังเป็นการขยายออกไปยังต่างประเทศเพิ่มเติมด้วย ปัจจุบัน เครือ RAM มีโรงพยาบาลทั้งหมด 17 แห่ง รวมจำนวนเตียง 2,400 เตียง และมีจำนวนคนไข้ประกันสังคมอยู่ที่ 460,000 ราย ที่เข้ารับการรักษาในเครือโรงพยาบาล
นายพิชญ กล่าวว่า ผลประกอบการของ RAM ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 64 เติบโตค่อนข้างมาก จากปัจจัยหนุนหลัก คือ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีผู้เข้ารับการรักษาจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังหนุนให้ความต้องการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ ยา และเวชภัณฑ์ ต่างๆปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทางโรงพยาบาลมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจด้านการนำเข้าผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในกลุ่มดังกล่าวเข้ามาจำหน่าย ก็จะหนุนการเติบโตได้ค่อนข้างมาก พร้อมกันนี้ด้วยการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังส่งผลให้ความต้องการบริการห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ที่ต้องการตรวจในเครือโรงพยาบาลเอง และยังมีความต้องการตรวจจากแลปจากภายนอกโรงพยาบาลเข้ามาจำนวนมากด้วยเช่นกัน