นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะผันผวน โดยอาจปรับตัวลงก่อนเด้งกลับ เนื่องจากตลาดสหรัฐฯพลิกเป็นลบหลังจากพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนรายแรกในสหรัฐ วิตกอาจต้องนำมาตรการควบคุมออกมาใช้ และไทยยังต้องเร่งติดตามผู้เดินทางมาจากแอฟริกามาตรวจหาเชื้อ อีกทั้งเวลานี้ก็ยังไม่รู้ว่าวัคซีนที่มีอยู่จะป้องกันได้หรือไม่
ส่วนธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เร่งปรับลดโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ตลาดฯรับรู้ไปล่วงหน้ามากแล้ว แต่ก็ยังถือเป็นอีกปัจจัยเสี่ยง ดังน้น คาดหุ้นกลุ่มเปิดเมืองที่เด้งขึ้นเมื่อวานนี้อาจกลับมาร่วงลงอีก
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาตเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดาวโจนส์ฟิวเจอร์เช้านี้บวก และราคาน้ำมันเช้านี้ก็ปรับตัวขึ้นด้วย อย่างไรก็ดี แนะติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสวันนี้คาดไม่ปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน และจับตาสถานการณ์ไวรัสโควิดโอไมครอนต่อไป
พร้อมให้แนวรับ 1,580-1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,593-1,600 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (1 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,022.04 จุด ลดลง 461.68 จุด (-1.34%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,513.04 จุด ลดลง 53.96 จุด (-1.18%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,254.05 จุด ลดลง 283.64 จุด (-1.83%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 219.42 จุด หรือ -0.79%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 134.87 จุด หรือ -0.57% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 3.64 จุด หรือ -0.10%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 ธ.ค.)1,590.81 จุด เพิ่มขึ้น 22.12 จุด (+1.41%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,593.18 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.64
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (1 ธ.ค.) ปิดที่ระดับ 65.57 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 61 เซนต์ หรือ 0.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 ธ.ค.) อยู่ที่ 3.39 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 33.71/74 คาดกรอบวันนี้ 33.65-33.80 จับตาสถานการณ์โควิด-ตัวเลขจ้างงานสหรัฐ
- นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจโพล"สินค้าแพง ต้นทุนพุ่ง กระทบเศรษฐกิจไทยแค่ไหน?"พบผู้บริหาร ส.อ.ท.มองปัจจัยทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อราคาสินค้ามาจากราคาน้ำมันและพลังงานโลกสูงขึ้น รวมทั้งปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และค่าระวางเรือสูง ทำให้รายได้ลดลง 10-20% และคาดแนวโน้มต้นทุนการผลิตใน 3-6 เดือนข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นอีก 10-20% เสนอรัฐบาลช่วยพยุงราคาพลังงาน ลดค่าสาธารณูปโภคบรรเทาผลกระทบทุกภาคส่วน
- ธปท.ย้ำไม่สนับสนุนนำสินทรัพย์ดิจิทัลชำระสินค้า-ค่าบริการเพิ่มขึ้น เหตุผันผวนสูง รั่วไหล หวั่นกระทบเสถียรภาพการเงิน พร้อมจับมือก.ล.ต. ศึกษารูปแบบกำกับ ป้องกันความเสี่ยง
- ทอท.ปรับประมาณการ ผู้โดยสารฟื้นตัวปี 2566 อ้างเหตุต่ออายุมาตรการอุ้มผู้ประกอบการ 2 พันสัญญา ลดค่าผลประโยชน์ตอบแทนเพิ่ม 1 ปี หวังสร้างรายได้ปีหน้าเพิ่ม 3 พันล้านบาท ชี้ไม่เยียวยาอาจทำให้คู่ค้าหาย 52% เผยผู้โดยสารในประเทศเดินทางมากขึ้น คาด 3-4 เดือนเข้าภาวะปกติ เชื่อ"โอมิครอน"ไม่ฉุดการบินมากกว่านี้
- เรียก 783 แอฟริกาเข้าไทยตรวจเชื้อเข้ม RT-PCR ปูด 172 ร้านดริงก์ไม่มี SHA นนท์เปิดสวนสนุก-เกม พร้อมชี้ 'โอไมครอน' แพร่เร็ว-ติดเชื้อซ้ำได้ มีเสียชีวิตด้วย เร่งตรวจ RT-PCR 783 นักท่องเที่ยวจากแอฟริกา เตือน 172 ร้านเปิดขายเหล้าแต่ไม่มีมาตรฐาน SHA สั่งปิด 1 แห่ง
*หุ้นเด่นวันนี้
- TRV (บมจ.ที.อาร์.วี.รับเบอร์ โปรดักส์) เทรดวันแรกตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ราคาขาย IPO 2.30 บาท/หุ้น บริษัทดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนยางขึ้นรูปเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ กลุ่มผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า และกลุ่มอื่นๆ เช่น ชิ้นส่วนเครื่องจักรกลเกษตร ซีลยางท่อน้ำ เป็นต้น
- SAT (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 27.5 บาท Event Play รับงาน Motor EXPO 1-12 ธ.ค.ด้านการผลิตรถยนต์ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วตั้งแต่เดือน ส.ค.ที่ผ่านมาหลังจากโรงงานสามารถกลับมาผลิตได้ตามปกติ ส่วนปีหน้าคาดยอดผลิตและขายฟื้นตัวต่อเนื่อง จากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ปัญหาขาดแคลนชิปเริ่มลดลง
- JR (ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 10 บาท แนวโน้มกำไร Q4/64 เป็นต้นไปจะกลับมาเร่งตัวขึ้นอีกครั้งหลังจากสะดุดชั่วคราวใน Q3/64 จากปัญหาปิดแคมป์ ปัจจุบันมี Backlog เกือบ 5 พันลบ.ต้นปี 65 มีแนวโน้มได้งานใหญ่เปลี่ยนสายไฟลงใต้ดินเฟส 2 รถไฟฟ้าสีเหลือง-ชมพู คาดหนุน Backlog ทะลุ 1 หมื่นลบ.รวมโอกาสความร่วมมือกับ Partner รุกธุรกิจ Recurring ด้านไฟฟ้า คาดกำไรปี 64-65 +167 Y-Y และ +54% Y-Y ให้แนวรับ 6.70 บาท แนวต้าน 7 ถัดไป 7.30-7.40 บาท