นายชูวิทย์ กล่าวว่า ในปี 65 บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายที่ 28,000 ล้านบาท หรือมีปริมาณการขายที่ 500,000 ตัน ตามกำลังการผลิตของบริษัทที่ระดับ 510,000 ตัน/ปี โดยบริษัทคาดว่าราคายางยังคงเป็นทิศทางขาขึ้นอย่างต่อเนื่องจากแหล่งปลูกยางรายใหญ่คือประเทศไทยประสบปัญหาน้ำท่วมในภาคใต้ และ ประเทศอินโดนีเซียประสบปัญหาโรคใบร่วง ในขณะเดียวกันยังมีการควบคุมการปลูก ซึ่งการกรีดยางสำหรับต้นใหม่ต้องใช้เวลาปลูกนานถึง 7 ปี จึงมีโอกาสหนุนให้ราคายางปรับตัวขึ้นแตะระดับ 70 บาท/กิโลกรัมได้ ขณะที่ทั้งปีคาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 65-67 บาท/กิโลกรัม โดยบริษัทได้เข้ามาเน้นเพิ่มยอดขายแผ่นปูนอนสำหรับงานปศุสัตว์ (แผ่นปูนอนรองวัว) ในแบรนด์ cattleFlex ปัจจุบันยังคงดำเนินการตามแผ่นซึ่งคาดว่าจะติดตั้งเครื่องจักรได้แล้วเสร็จในเดือน ก.พ. 65 โดยย้ำเป้าหมายรายได้ในปี 65 ประมาณ 500 ล้านบาท ปริมาณการขาย 280,500 แผ่น ด้านแผนการตลาดปัจจุบันอยู่ระหว่างทยอยสรุปและเซ็นสัญญาในกลุ่มประเทศต่างๆ ให้เป็นตัวแทนการจำหน่ายสินค้า (Distributer) ซึ่งในเฟสแรกมีทั้งหมด 13 ประเทศ