นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า วันนี้ แสนสิริขอประกาศภารกิจสำคัญอีกครั้ง ในการนำองค์กรเข้าสู่การเป็นฟันเฟืองหนึ่งที่ร่วมแก้วิกฤตสิ่งแวดล้อม ด้วยการประกาศเป้าหมายสู่การเป็น Net-zero องค์กรอสังหาริมทรัพย์แรกในประเทศไทยที่วางพันธกิจในการเป็นองค์กรที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์อย่างเต็มรูปแบบในอนาคตอันใกล้
โดยแสนสิริได้จัดทำกระบวนการขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์ 4 ด้านหลักเพื่อมุ่งสู่ Thailand?s First Real-Estate Company to Set Target for Net-zero เพื่อสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งอัดแน่นไปด้วยรายละเอียดดังนี้
1. Process: แสนสิริจะมีกระบวนการตรวจสอบที่เข้มข้นและได้มาตรฐาน สร้างเป้าหมายที่จะบรรลุได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเริ่มจากการเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทยซึ่งเป็นเครือข่ายที่จัดตั้งโดยองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก จากนั้นจะเข้าร่วมโครงการขยายผลกิจกรรมชดเชยคาร์บอน เพื่อสนับสนุนตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจภายในประเทศปีที่ 9 หรือ TCOP9 ซึ่งจะช่วยให้สามารถจำแนกแหล่งปล่อย และประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกับโครงการและทุกกระบวนการทำงานของแสนสิริ ให้เกิดการทำงานอย่างเป็นรูปธรรม และวัดผลได้อย่างชัดเจน
2. Product: แสนสิริมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น มุ่งสู่การใช้พลังงานสะอาด ใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า และลดขยะให้ได้มากที่สุด ประกอบไปด้วย ทุกโครงการของแสนสิริต้องใช้พลังงานสะอาด โดยในปี 2022 (ปี 65)เป็นต้นไป ส่วนกลางของทุกโครงการใหม่จะเป็นโซลาร์ รูฟ ตลอดจนบ้านของแสนสิริที่เปิดตัวใหม่จะเป็นโซลาร์ รูฟ รวมกว่า 50% และ 100% ทุกหลัง ในปี 2030 (ปี 73) รวมถึงไฟถนนในโครงการแสนสิริทุกโครงการใหม่จะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ 100% ในปี 2030 (ปี 73) เช่นกัน (ปัจจุบันไฟส่องสว่างในสวนส่วนกลางในทุกโครงการใหม่เป็นไฟที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ 100%) ถัดมาคือการใช้รถยนต์พลังงานสะอาดด้วยการเปลี่ยนรถผู้บริหารทุกคันของบริษัทเป็นรถ EV ในต้นปี 2021 (ปี 64) และได้ติดตั้ง EV Charger ในทุกโครงการในปี 2025 (ปี 68) รวมถึงจะติดตั้งในบ้านทุกหลังภายในปี 2030 (ปี 73) ถัดมาคือการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยจะเริ่มใช้ในสัดส่วน 50% ในปี 2022 (ปี 65) และเพิ่มเป็น 70% ในปี 2025 (ปี 68) ของวัสดุที่แสนสิริจัดซื้อ รวมถึงการมุ่งสู่บ้านประหยัดพลังงาน โดยภายในปี 2025 (พ.ศ.2568)
บ้านโครงการใหม่ของแสนสิริ 50% จะเป็นบ้านเย็นและประหยัดพลังงาน (Cooliving Designed Home) และเพิ่มขึ้นเป็น 70% ใน 2030 (ปี 73) ตลอดจนบ้านแสนสิริทุกหลังต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดไฟเบอร์ 5 ทุกชิ้น และใช้หลอดไฟ LED ประหยัดพลังงานทุกดวง นอกจากนี้การก่อสร้างในทุกโครงการต้องลดขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยขยะจากการก่อสร้างจะนำมารีไซเคิลและรียูสได้ 70% ภายใน 2025 (ปี 68) รวมถึงกระบวนการผลิตของโรงงานพรีคาสต์ จะก่อให้เกิดขยะไม่เกิน 2% ภายใน 2022 (ปี 65) และที่สำคัญทุกโครงการแสนสิริต้องมีระบบ Waste Management เพื่อลดคาร์บอนและขยะสู่โลก โดยทุกโครงการต้องมีถังแยกขยะ (Waste to Worth) และมีเป้าหมายจับมือพันธมิตรเพื่อให้การแยกขยะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
3. Partners: พันธมิตรพลังบวก โดยแสนสิริได้ร่วมมือกับพันธมิตรได้รู้จักการตั้งเป้าหมายลดการผลิตก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจังเพื่อตั้งเป้าหมายร่วมกัน ซึ่งขณะนี้มีคู่ค้าที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรจากองค์กรขนาดใหญ่มากมาย อาทิ ทีโอเอ, คอตโต้, ไดกิ้น,เอสบี เฟอร์นิเจอร์, ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย, โคคา-โคลา (ประเทศไทย), บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด, บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน), GC เป็นต้น และอยู่ระหว่างการหารือกับสถาบันการเงิน เพื่อร่วมจัดทำสินเชื่อพิเศษ (Pre & Post Finance) ที่ให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และในอนาคตจะมีการสนับสนุนให้ทุกพันธมิตรใน Ecosystem ของแสนสิริลงนามความร่วมมือว่าด้วย Net-zero ร่วมกัน
4. Investment: การลงทุนในทุกมิติ จะมุ่งเน้นในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการลดคาร์บอนโดยตรงและทางอ้อม โดยในเบื้องต้นได้กำหนดงบลงทุนไว้ 500 ล้านบาท สำหรับระยะเวลา 3 ปี โดยจะเน้นลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อพลังงานสะอาด เทคโนโลยีสุขภาพ เทคโนโลยีการเกษตร เทคโนโลยีด้านอาหาร ซึ่งทุกธุรกิจจะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นมิตรต่อสังคม
นายเศรษฐา กล่าวว่า โมเดลของแสนสิริจะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนการมุ่งสู่อุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุถึงเป้าหมาย Net Zero ที่ได้ให้ไว้กับประชาคมโลก ซึ่งแสนสิริเองขออาสาที่จะทำภารกิจนี้อย่างจริงจังและเร่งด่วนใน 4 มิติข้างต้น เพื่อเข้าสู่เป้าหมาย Thailand?s First Real-Estate Company to Set Target for Net-zero หรือรายแรกของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไทยที่กล้าประกาศตั้งเป้า Net-zero อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านกระบวนการตรวจสอบที่เข้มข้นและได้มาตรฐาน การใช้พลังงานสะอาด ใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ร่วมมือกับเพื่อนของแสนสิริที่เป็นพันธมิตรพลังบวก ตลอดจนร่วมลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการลดคาร์บอนโดยตรงและทางอ้อม
"เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทุกกระบวนการทำงานของแสนสิริจะเป็นพลังงานสะอาด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด เพื่อช่วยสร้างแรงกระตุ้นการรับรู้ของสังคมให้เกิดการตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่ทุกคนสามารถทำได้ โดยเริ่มจากบ้านซึ่งเป็นหน่วยเล็กๆ ที่เป็นที่อยู่อาศัยของทุกคน เพื่อร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กับโลกของเรา" นายเศรษฐา กล่าว