ก.ล.ต. เตรียมสอบราคาซื้อขาย Cryptocurrency ของไทยหลังมีความผันผวน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday December 3, 2021 11:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายศักรินทร์ ร่วมรังษี รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยผ่านรายการโทรทัศน์ว่า จากการปรับตัวขึ้นและลดลงของราคา Cryptocurrency ของไทยอย่างรวดเร็วและมีความผันผวนสูง อย่างเช่น KUB และ JFIN ในช่วงสัปดาห์นี้ ซึ่งทางก.ล.ต.ได้มีความเป็นห่วงในประเด็นดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามการตรวจสอบของทางก.ล.ต.จะต้องพิจารณาจาก 2 เรื่อง ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาซื้อขาย Cryptocurrency ในตลาด

ในกรณีแรกหากการเคลื่อนไหวของราคาซื้อขาย Cryptocurrency ในกระดานเทรดมีความผันผวนผิดปกติที่มาจากการสร้างราคา หรือการให้ข่าวเพื่อปั่นราคา หรือการใช้ข้อมูลภายในในการสร้างราคาซื้อขาย (Insider trading) ในกรณีนี้ทางก.ล.ต.สามารถเข้าไปกำกับดูแลได้ตามกฎหมายตามพ.ร.บ.สินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561

ส่วนในกรณีที่สองเกิดจากกการความผันผวนตามธรรมชาติที่เป็นไปตามภาวะของตลาด ทำให้ส่งผลต่อราคาซื้อขาย Cryptocurrency ในกระดานมีความผันผวน ในกรณีนี้ก.ล.ต.นี้ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามภาวะของตลาด ซึ่งไม่ถือว่าเป็นความผิดปกติในการที่มีคนเข้าไปสร้างหรือปั่นราคาขึ้นมา โดยที่การตรวจสอบของก.ล.ต.จะต้องดูข้อมูลจากทั้ง 2 เรื่อง เพื่อนำมาพิจารณาประกอบการตรวจสอบ

"เราก็ตกใจเหมือกันที่มีสถานการณ์แบบนี้ แต่ประเทศไทยต้องยอมรับว่าเรามีการออกใบอนุญาตในการให้ลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่แล้ว มี Exchange ที่ได้รับใบอนุญาต คริปโทฯก็คล้ายกับหุ้น ฟิวเจอร์ ออฟชั่น ที่มีความผันผวน แต่อาจจะมีความผันผวนมากกว่า สิ่งที่ก.ล.ต.จะพิจารณาตรวจสอบจะต้องดู 2 เรื่อง ว่าเป็นความผิดปกติที่มาจากการปั่นราคาหรือไม่ หรือมาจากความผันผวนที่เป็นไปตามภาวะของตลาด ก็อยุ่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล และคาดว่าจะดำเนินการไม่ช้าน่าจะได้ข้อสรุปออกมา" นายศักรินทร์ กล่าว

ปัจจุบันยอมรับว่ามีนักลงทุนที่สนใจเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นจำนวนมาก โดยที่มูลค่าการซื้อขายในเดือนพ.ย. 64 มีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 2.5 พันล้านบาท จากเดือนธ.ค. 63 ที่มีเพียง 26 ล้านบาท จากการที่มีนักลงทุนให้ความสนใจและเห็นโอกาสในการลงทุน ทำให้มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมากขึ้น จะเห็นได้จากจำนวนบัญชีของนักลงทุนในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 1.6 ล้านบัญชี จากสิ้นปีก่อนที่ 170,000 บัญชี

ด้านแนวคิดการกำหนดเกณฑ์ Celling & Floor ของการซื้อขาย Cryptocurrency เหมือนกับการซื้อขายหุ้นนั้น ทางก.ล.ต.อยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสมในเรื่องดังกล่าว และต้องดูหลักการของทั่วโลกด้วยเช่นกันว่าการควบคุมเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งยอมรับว่าปัจจุบันการกำหนดเกณฑ์ Celling & Floor ยังไม่มีประเทศใดทำเกณฑ์ดังกล่าวขึ้นมา ทำให้การดูแลตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลของก.ล.ต.ต้องสอดคล้องกับเกณฑ์ของประเทศอื่นๆ

ส่วนการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาแสดงความกังวลการนำ Cryptocurrency ไปใช้ในการแลกเปลี่ยน ซื้อขายสินค้าและบริการ ซึ่งมีผู้ประกอบการรายใหญ่ต่างๆออกมาจับมือร่วมกับผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัล และเริ่มเปิดให้บริการนำ Cryptocurrency มาแลกเปลี่ยน ซื้อขายสินค้าและบริการมากขึ้น ในส่วนนี้จะต้องเป็นการกำกับดูแลของธปท. ซึ่งทางก.ล.ต.มองว่าการที่ธปท.แสดงความกังวลออกมานั้น อาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่กระทบต่อกฎระเบียบเกี่ยวกับการชำระเงินของธปท. ซึ่งยังคงต้องรอทางธปท.ออกมาชี้แจงในเรื่องดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ