ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่าวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อได้สิ้นสุดลงแล้วเหมือนกับที่นักวิเคราะห์บางรายประเมินไว้ โดยนักลงทุนเทขายหุ้นแม้ตลาดทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งกว่า 300 จุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาก็ตาม
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 76.08 จุด หรือ 0.57% แตะระดับ 13,231.01 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดรูดลง 10.47 จุด หรือ 0.71% แตะระดับ 1,470.58 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 29.33 จุด หรือ 1.10% แตะระดับ 2,644.32 จุด
ปริมาณซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.59 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 5 ต่อ 3 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.46 พันล้านหุ้น
นายสตีฟ โกลด์แมน นักวิเคราะห์จากบริษัทวีเดน แอนด์ โค กล่าวว่า "ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นลงเกือบตลอดทั้งวันก่อนที่จะร่วงลงปิดในแดนลบ โดยนักลงทุนให้น้ำหนักกับคำพูดของนายมิทช์ แคปแลน ซีอีโอของบริษัทอี-เทรด ไฟแนนเชียล ที่กล่าวในรายการโทรทัศน์ CNBC ว่า อี-เทรด ไฟแนนเชียลกำลังเผชิญปัญหาขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองเป็นวงเงินสูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อสิ้นสุดลงแล้วจริงหรือไม่"
"นอกจากนี้ เอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ระบุว่า ธนาคารอาจต้องตัดบัญชีหนี้สูญอีก 3.4 พันล้านดอลลาร์เนื่องจากขาดทุนในตลาดซับไพรม์ ซึ่งข่าวดังกล่าวตอกย้ำให้นักลงทุนกังวลเรื่องทิศทางในตลาดสินเชื่อของสหรัฐ" นายโกลด์แมนกล่าว
นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกือบ 3 ดอลลาร์ ได้จุดปะทุให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญเงินเฟ้ออย่างหนักและอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้านั้น ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการที่นายแซม มาลินาโร ผู้บริหารของวาณิชธนกิจแบร์สเติร์นส กล่าวว่า ธุรกิจการเงินของแบร์สเติร์นสกำลังฟื้นตัวขึ้น ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลแม้แบร์สเติร์นสยอมรับว่าอาจต้องตัดบัญชีหนี้สูญเป็นวงเงิน 1.2 พันล้านดอลลาร์ก็ตาม
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อนักลงทุนขานรับการแสดงความคิดเห็นของนายลอยด์ แบลงค์เฟน ซีอีโอของโกลด์แมน แซคส์ ที่ว่า สถานะของโกลด์แมน แซคส์ในตลาดซับไพรม์ยังอยู่ในขั้นดี และเชื่อว่าโกลด์แมน แซคส์ จะไม่ต้องดำเนินการตัดบัญชีหนี้สูญในขณะนี้
ทั้งนี้ หุ้นเมอร์ริล ลินช์ พุ่งขึ้น 1.03 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.98 ดอลลาร์ จากข่าวที่ว่า นายจอห์น เธน ซีอีโอของบริษัท NYSE Euronext Inc. อาจจะเข้ามาดำรงตำแหน่งซีอีโอคนต่อไปของเมอร์ริล ลินช์ โดยเมอร์ริล ลินช์ได้ยืนยันข่าวดังกล่าวหลังจากตลาดปิดทำการ
ขณะที่หุ้นแบร์สเติร์นส ดีดขึ้น 2.4% หลังจากนายแซม มาลินาโร ผู้บริหารของแบร์สเติร์นส กล่าวว่า ธุรกิจการเงินของแบร์สเติร์นสกำลังฟื้นตัวขึ้น ส่วนหุ้นแอปเปิล ซึ่งเป็นผู้ผลิต iPhone และ iPod ปิดร่วงลง 2.27% และหุ้นกูเกิลปิดรูดลง 2.86%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--