ทั้งนี้ การเติบโตของรายได้ตามเป้าหมายจะมาจาก 5 กลุ่มธุรกิจ โดยยังไม่นับรวมกิจการร้านขายยา ของบริษัท ดรัก แคร์ จำกัด ที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นขั้นตอนการซื้อกิจการในไตรมาส 1/65
ขณะที่วางเป้าหมายอัตรากำไรสุทธิในปีนี้ไว้ที่ 15-16% (งวด 9 เดือนปี 64 อยู่ที่ 11.1%)
สำหรับการทำแผนกลยุทธ์ (Strategic) ใน 5 ปี มีวิสัยทัศน์เป็นอันดับ 1 ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพแบบครบวงจร ทั้งของคนและของสัตว์ และเป็นบริษัทที่มีคนต้องการมาร่วมงานไม่ว่าจะเป็นเภสัชกร นักวิทยาศาสตร์ สัตวแพทย์ รวมทั้งเป็นที่หนึ่งในใจของลูกค้า รวมทั้งคำนึงถึง เหรียญดิจิทัลอย่าง คริปโทเคอร์เรนซี่ และ วิกฤติโลกร้อน ว่าบริษัทจะมีความเกี่ยวพันอย่างไร รวมถึงสถานการณ์การระบาดโควิดที่มีสายพันธุ์ใหม่เข้ามาอยู่เรื่อยๆ
"ล่าสุดผมได้มีการ Review แผนปี ค.ศ.2021-2025 เป็นปี 2022-2026 ซึ่งแผนนี้เรายังไม่ได้รวมแผนธุรกิจใหม่ที่จะเข้าซื้อกิจการ ดรัก แคร์คาดว่าจะจบได้ในไตรมาส 1/65 เป็นอย่างช้า หรือ ภายใน ก.พ.หรือ มี.ค. ตอนนี้เราอยู่ขั้นตอนทำ Due diligence เราคิดว่าร้านขายยา ดรัก แคร์ เป็นตัวที่จะทำให้ต่อยอดตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำก็จะเข้าสู่ธุรกิจ Tele medicine ไป E-Commerce รวมถึงเรื่อง คริปโต เราก็ Review ตลอด"
บริษัทคาดว่าในปี 65 สัดส่วนรายได้ตามผลิตภัณฑ์ 5 กลุ่มได้แก่ ผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพและชะลอวัย (Wellness & Anti-Aging Nutraceuticals) 445 ล้านบาท, ผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์รักษาโรค (Pharmaceutical Innovation) 440 ล้านบาท, ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมความงาม (Cosmeceuticals & Aesthetic Innovation) 60 ล้านบาท, ผลิตภัณฑ์ดูแลและส่งเสริมสุขภาพของสัตว์เลี้ยง (Companion Animal Healthcare) 276 ล้านบาท, ผลิตภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์ (Livestock Animal Healthcare) 87 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะได้รับสารสกัดกัญชงจากบมจ. อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย (RBF) และจะออกสินค้าที่มีส่วนผสมกัญชงได้ภายในไตรมาส 1/65
ส่วนโรงงานสารสกัดกระท่อม ซึ่งเป็นโครงการผลิตสารสกัดมาตรฐานจากสมุนไพรเพื่อใช้ในทางการแพทย์และอาหารที่ได้รับทุนจากรัฐบาล 45 ล้านบาทเป็นต้นแบบพัฒนาสมุนไพรให้เทียบเคียงกับยาแผนปัจจุบัน โดยมี 3 เฟส เฟสแรกเป็นการสร้างโรงงานต้นแบบที่หาดใหญ่ การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ สายพันธุ์ในการปลูกกระท่อม นำเข้าผลิต ได้พัฒนาโรงงานต้นแบบในการผลิตสารสกัดมาตรฐานจากสมุนไพรเพื่อใช้ในทางการแพทยและอาหารที่ได้มาตรฐาน GMP/PIC ซึ่งต่อไปจะพัฒนาในโรงงานของ IP ที่อยุธยาและสมุทรปราการ หลังจากนั้นจะขอทุนจากรัฐบาลเพื่อวิจัยและทดลองทางคลีนิคที่จะใช้ทดแทนยาเสพติดใช้กับผู้ที่ต้องการจะเลิกยาเสพติด
นายตฤณวรรธน์ เชื่อว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ผู้บริโภคภายในประเทศ และจะทำให้ไทยเป็นฐานการผลิตส่งออก โดยตลาดสหรัฐฯซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของกระท่อม โดยกำลังอยู่ระหว่างพัฒนาผลิตผลิตภัณฑ์จากกระท่อม 2-3 รายการ