นางสาวอธิกา บุญรอดชู ผู้อำนวยการ ฝ่ายจัดสรรเงินทุนและการลงทุน บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) เปิดเผยว่า จากที่มีสัญญาณที่ดีช่วยกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคและภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยในช่วงไตรมาส 4 ให้กลับมามีทิศทางที่ดีขึ้น โดย SENA เปิด 9 โครงการใหม่รวมมูลค่า 8,400 กว่าล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 3 โครงการ และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ ระดับราคาต่ำล้าน เน้นกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ โดยเฉพาะคนทำงาน (first Jobber) มองหาที่อยู่อาศัยใกล้สถานที่ทำงาน เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าเช่าบ้าน ประกอบด้วย นิช โมโน พระราม 9 (JV), เฟล็กซี่ รัตนาธิเบศร์, เฟล็กซี่ สาทร-เจริญนคร (JV), เสนา อีโค่ ทาวน์ รังสิต สเตชั่น, SENA Kith MRT บางแค (เฟส 2), SENA kith ศรีด่าน (JV), เสนาเวล่า เทพารักษ์-บางบ่อ (JV), เสนาวิลเลจ รามอินทรา กม.9 และ เสนาวิลเลจ รังสิต-บางพูน
แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ดูเหมือนจะคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้นแต่กลับมีสายพันธุ์ใหม่ "โอมิครอน" กำลังเข้ามาป่วนอีกระลอกทำให้ภาพรวมตลาดกลับมาชะลออีกครั้ง แต่ธุรกิจต้องเดินหน้าต่อ ซึ่งทาง SENA พร้อมปรับตัวตลอดเวลาต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ผลประกอบการยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยมาตรการผ่อนปรนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และภาครัฐการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำ การลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนอง และประกาศปลดล็อคมาตราการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้กู้ 100% หรือ LTV มองว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงนี้
ขณะเดียวกันตลอดช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา SENA สามารถสร้างยอดขาย 3,846 ล้านบาท คิดเป็น 54% จากเป้ายอดขายทั้งปี 7,111 ล้านบาท และรายได้ 3,688 ล้านบาท คิดเป็น 53% จากเป้ารายได้ 6,943 ล้านบาท (รวมบริษัทร่วมทุน) ขณะที่รายได้รวมของทั้งบริษัทอยู่ที่ 4,065 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 613 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าพอใจท่ามกลางสถานการณ์ที่รุมเร้ามาทั้งปี
ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ไตรมาส 3/64 ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 คิดเป็นมูลค่า 8,019 ล้านบาท และในไตรมาส 4/64 ยังมียอดขายรอการโอนกรรมสิทธิ์อีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการเฟล็กซี่ สาทร-เจริญนคร (บริษัทร่วมทุน), โครงการนิช โมโน อิสรภาพ (บริษัทร่วมทุน) และโครงการ นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา (บริษัทร่วมทุน) ที่จะเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงสิ้นปีนี้ และสามารถทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ 3,496 ล้านบาท และทยอยรับรู้ในปีถัดไปตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ในปี 64 ทาง SENA เปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 13 โครงการ รวมมูลค่า 10,505 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการร่วมทุน 8 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 5,541 ล้านบาท และโครงการของเสนา 5 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 4,964 ล้านบาท