(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นสิงคโปร์: เศรษฐกิจสหรัฐฉุดสเตรทส์ไทม์ปิดร่วง 73.34 จุด

          ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดร่วงลงในวันนี้ (9 พ.ย.) โดยการนำของหุ้นกลุ่มธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติซับไพรม์ รวมถึงเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังอยู่ในช่วงซบเซา นอกจากนั้นยังเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนเร่งเทขายทำกำไรหลังตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดทำการเมื่อวานนี้
          นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดกล่าวเมื่อคืนนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัวอย่างหนักในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
          สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ร่วลง 73.34 จุด หรือ 2% ปิดที่ 3,599.67 จุด หลังเคลื่อนไหวในกรอบ 3,580.36 และ 3,632.76 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.29 พันล้านหุ้น มูลค่า 3.22 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
          หุ้นกลุ่มธนาคารสิงคโปร์ต่างร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากความวิตกกังวลว่าธนาคารเหล่านี้จะต้องจัดงบสำรองสำหรับการลงทุนใน CDO ขณะที่สถาบันการเงินทั่วโลกต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสำรองหนี้สูญอันเนื่องมาจากซับไพรม์มากขึ้น โดยหุ้นดีบีเอส กรุ๊ป ร่วงลง 50 เซนต์, หุ้นยูโอบี ลดลง 40 เซนต์ และ หุ้นโอซีบีซี ลดลง 15 เซนต์
          "นักลงทุนควรเริ่มซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารหลังการปรับฐานลงเนื่องจากมีการเทขายมากเกินไปในสัปดาห์นี้" เดวิด ลัม นักเศรษฐศาสตร์จาก Daiwa Institute of Research กล่าว 
          หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็ปรับลดลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกว่า การที่รัฐบาลยกเลิกการยืดเวลาชำระค่าบ้านที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง อาจส่งผลกระทบต่อราคาบ้าน โดยหุ้นแคปปิตอลแลนด์ ลดลง 20 เซนต์ และ หุ้นซิตี้ เดเวลอปเมนท์ ลดลง 20 เซนต์    
          ในขณะที่หุ้นกลุ่มบริษัทสินค้าโภคภัณฑ์ปรับเพิ่มตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยหุ้นโนเบิลกรุ๊ป เพิ่ม 15 เซนต์ เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าบริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการณ์อันแข็งแกร่งในไตรมาสสาม, หุ้นอินโดฟู้ด อะกรี เพิ่ม 13 เซนต์ และ หุ้นโกลเด้น อะกรี เพิ่ม 21 เซนต์
          นอกจากนั้นยังมีหุ้นอีกสองตัวที่เริ่มซื้อขายเป็นครั้งแรกในวันนี้ ได้แก่ หุ้น Changtian Plastic & Chemical Ltd ซึ่งเป็นบริษัทผลิตกระดาษกาวของจีน โดยซื้อขายครั้งล่าสุดที่ระดับ 60.50 เซนต์ และ หุ้น Saizen REIT ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการด้านอพาร์ทเมนท์ในญี่ปุ่น โดยหุ้นดังกล่าวปิดที่ 86 เซนต์ ลดลงจากราคาไอพีโอ 1 ดอลลาร์