ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,614.35 จุด เพิ่มขึ้น 4.01 จุด (+0.25%) มูลค่าการซื้อขายราว 37,282 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบแคบมาก โดยทำระดับสูงสุด 1,623.82 จุด และระดับต่ำสุด 1,612.59 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโสนักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งออกด้านข้างกรอบแคบหลังจากตอบรับปัจจัยบวกผ่อนคลายความกังวลเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่ไม่ได้รุนแรงไปแล้ว ทำให้ตลาดฯปรับตัวขึ้นไปมากแล้วในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา จึงส่งผลให้เช้านี้ตลาดฯเผชิญแรงขายทำกำไรออกมาบ้างก่อนเข้าวันหยุดยาว
นอกจากนี้ สัปดาห์หน้าจะมีการประชุมธนาคารกลางหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) โดยเฉพาะเฟด ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะคาดว่าจะมี Action เกี่ยวกับการปรับลด QE ออกมาชัดเจนขึ้น อีกทั้งยังมีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นด้วย
พร้อมให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐวันศุกร์นี้ ซึ่งคาดว่าเงินเฟ้อเดือน พ.ย.จะอยู่ที่ 6.8% เพิ่มขึ้นจาก 6.2% ในเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นการปรับขึ้นต่อเนื่อง หากเป็นเช่นอาจทำให้เฟดน่าจะต้องมี Action อย่างที่มองไว้ข้างต้น
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะเคลื่อนไหวคล้ายกับช่วงเช้า แต่มองว่าไม่ได้แย่มาก โดยมีแนวรับ 1,608 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620-1,630 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,332.41 ล้านบาท ปิดที่ 138.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,150.98 ล้านบาท ปิดที่ 37.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
THANI มูลค่าการซื้อขาย 949.50 ล้านบาท ปิดที่ 4.54 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 928.03 ล้านบาท ปิดที่ 58.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
DELTA มูลค่าการซื้อขาย 911.86 ล้านบาท ปิดที่ 430.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง