นางสาวนิตา ตรีวีรานุวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทาคูนิ กรุ๊ป (TAKUNI) คาดว่าทิศทางผลประกอบการในปี 65 จะกลับมาฟื้นตัวได้หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย จะส่งผลให้ธุรกิจบริการทดสอบและตรวจสอบด้านความปลอดภัยทางวิศวกรรมกลับมาสามารถดำเนินการได้ ขณะที่ธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) คาดว่าปริมาณการขายจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 24,000 ตันต่อปี
นอกจากนี้บริษัทจะสามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เอ็กซ์แซคท์ เรียลเอสเตท จำกัด ซึ่ง TAKUNI ถือหุ้นในสัดส่วน 40% และบริษัท เอซ เอสเตท กรุ๊ป จำกัด ในสัดส่วน 60% โครงการแรกมีมูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท เปิดก่อสร้าง 3 เฟส จากทั้งหมด 4 เฟส ปัจจุบันมียอดจองซื้อบ้านแล้วจำนวน 65 หลัง จากทั้งหมด 95 หลัง และคาดจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้ตั้งแต่ต้นปี 65
ด้านบริษัทย่อย คือ บมจ.ซี เอ แซด (ประเทศไทย) หรือ CAZ ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) กว่า 4,000 พันล้านบาท ที่จะสามารถรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องในปี 65 และ CAZ ยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่องประเภท Oil & Gas ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ที่จะทยอยรู้ผลการประมูลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปีนี้ ในขณะเดียวกันบริษัทคาดจะมีงานทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ประกอบการหรือกลุ่มลูกค้าเดินหน้าลงทุนโครงการใหญ่อย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ด้านธุรกิจ บริษัท วัชพืช ไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของ TAKUNI โดยถือหุ้นอยู่ 50% และบริษัทอื่นๆ ถืออีก 50% เพื่อประกอบธุรกิจผลิต นำเข้า-ส่งออก ขนส่ง แปรรูป ครอบครอง และจำหน่าย กัญชา กัญชง เพื่อใช้ในทางการแพทย์ หรือการศึกษา วิจัย พัฒนา นวัตกรรมทางการแพทย์ เพื่อการรักษาผู้ป่วยหรืองานวิจัยอื่น ปัจจุบันอยู่ระหว่างเริ่มการปลูกกัญชง เบื้องต้นจะปลูกในพื้นที่ทดลองประมาณ 320 ตร.ม. โดยปลูกแบบระบบปิด และคาดว่าจะสามารถเริ่มจำหน่ายครอปแรกได้ในช่วงไตรมาส 1/65