นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มีนาทรานสปอร์ต(MENA) เปิดเผยว่า ในปี 65 บริษัทตั้งเป้าจำนวนเที่ยวของการให้บริการรถขนส่งเบื้องต้นเพิ่มขึ้น 5% จากปีนี้ โดยที่บริษัทยังคงบริษัทยังคงมีการเดินหน้าเข้าประมูลงานและเจรจากับลูกค้าภาคก่อสร้างต่างๆ โดยที่คาดว่าปริมาณงานในปี 65 จะเพิ่มมากขึ้นจากภาคการก่อสร้างที่เริ่มกลับมา ทั้งจากโครงการของภาครัฐที่จะมีการทยอยออกมา และโครงการของภาคเอกชนที่กลับมามากขึ้น ทำให้ความต้องการใช้รถขนส่งในภาคอุตสาหกรรมกลับมาฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 4/64 และบริษัทยังเตรียมงบลงทุนไว้รองรับการเพิ่มจำนวนรถขนส่งไว้ที่ 120 ล้านบาท สำหรับการซื้อรถบรรทุกขนส่งรวมเพิ่มอีก 40 คัน
สำหรับแนวโน้มของปริมาณงานในช่วงไตรมาส 4/64 มีการกลับมาเกือบใกล้เคียงกับช่วงปกติ แม้ว่ายังไม่กลับมา 100% ก็ตาม ซึ่งปัจจุบันไซต์ก่อสร้างต่างๆเริ่มกลับมาก่อสร้างอีกครั้งหลังจากมีการอนุญาตให้กลับมาเปิดแคมป์คนงาน และภาพรวมของการแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายลงมากขึ้น ทำให้การกลับมาของภาคก่อสร้างกลับมามากขึ้น และทำให้มีการใช้บริการรถขนส่งที่เกี่ยวข้องกับภาคการก่อสร้างกลับมามากขึ้น โดยเฉพาะรถ Mixer ผสมคอนกรีต ที่มีความต้องการใช้บริการกลับมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลบวกต่อบริษัท โดยที่คาดว่าจำนวนเที่ยวรถให้บริการจะกลับมาในระดับกว่า 4,000 เที่ยว/ไตรมาส จากไตรมาส 3/64 ที่ลดลงมาที่ 3,900 เที่ยว
อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการขาดแคลนแรงงานอยู่บ้าง หลังจากที่คนงานที่กลับบ้านไปในช่วงล็อกดาวน์ยังไม่กลับมา รวมถึงคนขับรถด้วยเช่นกัน ทำให้การให้บริการขนส่งกับกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมยังมีข้อจำกัดอยู่เล็กน้อย ทำให้การให้บริการยังไม่สามารถเร่งตัวได้ขึ้นมาก แต่บริษัทยังพยายามในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยการใช้คนขับรถร่วมที่รับงานเป็นครั้ง เพื่อทำให้สามารถรองรับกับความต้องการใช้ของลูกค้าได้ทัน
ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลที่ปัจจุบันปรับเพิ่มขึ้นมาในระดับสูง และมีผลกระทบต่อต้นทุนและอัตราการให้บริการของบริษัท แต่หลังจากที่ภาครัฐตรึงราคาน้ำมันให้ไม่เกิน 29.99 บาท/ลิตร ทำให้แรงกดดันของราคาน้ำทันที่เพิ่มขึ้นลดลง และบริษัทสามารถรองรับกับความผันผวนของราคาน้ำมันได้ ทำให้ไม่กระทบต่อความผันผวนของภาพรวมของผลการดำเนินงานมาก ทำให้ปัจจัยของราคาน้ำมันดีเซลในประเทศเริ่มมีความกังวลลดลง