ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,640.76 จุด ลดลง 4.56 จุด (-0.28%) มูลค่าการซื้อขายราว 49,502 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุด 1,646.85 จุด และระดับต่ำสุด 1,638.11 จุด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงหลังขึ้นไปแรงวานนี้ เผชิญแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มธนาคาร เช่นเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างติดลบกันเป็นส่วนใหญ่ หลังผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกมาจะลด QE แบบค่อยเป็นค่อยไป อาจจะยังไม่มั่นใจการฟื้นตัวเศรษฐกิจ เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนอยู่
ส่วนผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 0.25% หลังจากที่เงินเฟ้อพุ่งแรงทำให้จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นได้หลังช่วงเช้าเผชิญแรงขายไปค่อนข้างมาก โดยให้แนวรับ 1,635 จุด ส่วนแนวต้าน 1,642-1,645 จุด
อย่างไรก็ดี ช่วงบ่ายตลาดฯอาจผันผวนบ้างจาก FTSE Rebalance มีผลวันนี้ และสัปดาห์หน้าให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จับตาจะมีมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่มีผลต่อเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง รวมถึงติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วยว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอะไรออกมา
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
EA มูลค่าการซื้อขาย 6,579.21 ล้านบาท ปิดที่ 94.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
SCGP มูลค่าการซื้อขาย 3,013.46 ล้านบาท ปิดที่ 67.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,806.44 ล้านบาท ปิดที่ 78.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,300.75 ล้านบาท ปิดที่ 140.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,699.44 ล้านบาท ปิดที่ 3.52 บาท เพิ่มขึ้น 0.22 บาท