KEST เผยทาบทามโบรกฯในประเทศ 2-3 รายเพื่อควบรวมกิจการ

          นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) หรือ KEST เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับโบรกเกอร์ในประเทศ 2-3 รายเพื่อเชิญชวนเข้ามาควบรวมกิจการ เนื่องจากมองว่าปัจจุบันแนวโน้มการควบรวมกิจการมีโอกาสค่อนข้างสูงภายใต้การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ขณะที่ Exclusive Partner ก็ยังเจรจาอยู่ 2-3 ราย แต่คงจะได้เห็นในปีหน้าเช่นกัน
          นายมนตรี เชื่อว่ากำไรของ KEST ในปีนี้จะใกล้เคียงหรือไม่น้อยกว่าปีก่อนที่มีกำไร 532 ล้านบาท ถึงแม้ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาจะมีกำไรเพียง 368 ล้านบาท แต่เชื่อว่าในไตรมาส 4/50 วอลุ่มตลาดจะกลับมาดีขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อบริษัท เนื่องจากบริษัทมีสัดส่วนลูกค้ารายย่อยค่อนข้างมาก โดยคาดมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยในช่วงดังกล่าวจะอยู่ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท/วัน จากปัจจุบันที่อยู่ที่ 1.68 หมื่นล้านบาท/วัน ถือว่าสูงกว่าปีก่อน 
          ในส่วนของการลงทุน บริษัทมีแผนขยายพอร์ตลงทุนผ่าน บลจ. ซึ่งปัจจุบันลงทุนไม่ถึง 50 ล้านบาท จากวงเงินที่ลงทุน 4 พันล้านบาท โดยในส่วนธุรกิจของ บลจ.ของบริษัทคาดว่าจะได้เห็นในปีหน้า  
          นายมนตรี เชื่อว่า หลังการเลือกตั้งทิศทางตลาดจะปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นให้เม็ดเงินการลงทุนเข้ามาในตลาดหุ้นไทย บริษัทมองดัชนี SET ภายในสิ้นปีนี้ที่ 900-1000 จุด หากเม็ดเงินยังไหลเข้ามาต่อเนื่องและไม่มีสถานการณ์ที่เลวร้ายก็จะส่งผลดีต่อธุรกิจหลักทรัพย์มีความโดดเด่นและจะผลักดันให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยไปถึง 1200 จุดได้ในปีหน้า ซึ่งตอนนี้ปัจจัยภายในประเทศยังสนับสนุนในทิศทางเป็นบวก  
          อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปัญหาซับไพร์มยังสร้างความกังวลกับนักลงทุน และเป็นเรื่องที่ทุกคนจับตาและติดตาม แต่เชื่อว่าในระยะกลางถึงยาวจะมีปัจจัยภายในเข้ามาสนับสนุนในทางบวก และแนวโน้มค่าเงินของดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่า ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคแข็งค่าขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในภูมิภาค รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย