ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) เพราะได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงกว่า 3 ดอลลาร์ และรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทโวดาโฟน
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวกขึ้น 24.5 จุด แตะระดับ 6,362.4 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 6,279.7-6,387.4 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.7 พันล้านหุ้น
ตลาดหุ้นลอนดอนขานรับราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กที่ร่วงลง 3.45 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ประกาศลดคาดการณ์ความต้องการพลังงานทั่วโลก
นายริชาร์ด ฮันเตอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทฮาร์เกรฟ แลนด์สดาวน์ กล่าวว่า "นอกเหนือจากราคาน้ำมันที่ร่วงลงแล้ว ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยบวกจากมุมมองที่ว่าการตัดบัญชีหนี้สูญในธนาคารพาณิชย์ของอังกฤษได้สิ้นสุดลงแล้ว เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ธนาคารพาณิชย์ในอังกฤษออกมาเปิดเผยยอดตัดบัญชีหนี้สูญถึง 3 หมื่นล้านปอนด์"
ทั้งนี้ หุ้นโวดาโฟนทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุดถึง 13.7% แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 ปีที่ 195.7 เพนซ์ หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในตลาดเกิดใหม่ ขณะที่หุ้นเดลี่ เมลล์แอนด์เจนเนอรัล ทรัสต์ ซึ่งทำธุรกิจหนังสือพิมพ์ ดีดขึ้น 31 เพนซ์ ปิดที่ 592 เพนซ์ หลังจากนักวิเคราะห์ของเมอร์ริล ลินช์ แนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นดังกล่าว
หุ้นยูนิลีเวอร์พุ่งขึ้น 2.6% หลังจากนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ประกาศเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ "neutral" จากเดิมที่ระดับ "sell" และปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นหุ้นยูนิลี เวอร์ขึ้นสู่ระดับ 24.50 ยูโร จากระดับ 22 ยูโร
ส่วนหุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นธนาคารรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ บวกขึ้น 18 เพนซ์ ปิดที่ 457.5 เพนซ์ ขณะที่หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สปรับตัวขึ้น 14 เพนซ์ ปิดที่ 527 เพนซ์ และหุ้นธนาคารลอยด์ ทีเอสบี บวกขึ้น 10 เพนซ์ ปิดที่ 497 เพนซ์
นอกจากนี้ หุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ พุ่งขึ้น 4.1% จากข่าวที่ว่า ธนาคาร BBVA ของสเปนอาจสนใจซื้อกิจการรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--