นายอนันต์ แก้วร่วมวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม (THCOM) กล่าวว่า การที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เลื่อนประมูลวงโคจรดาวเทียม เป็นเรื่องที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้
อย่างไรก็ดี บริษัทได้เปลี่ยนจากธุรกิจ Sattlelite มาเป็น Space Air Ground ซึ่งในอนาคตทั้งบริการดาวเทียม การเก็บข้อมูลจากอากาศ โดรน อุปกรณ์ภาคพื้นดินรับส่งสัญญาณจะมีการใช้งานมากขึ้น บริษัทจึงไม่ต้องพึ่งพิงกับธุรกิจดาวเทียมอย่างเดียว และไม่จำเป็นต้องทำตลาดเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น
รวมทั้ง THCOM ก็ยังมีกระแสเงินสดราว 2-3 พันล้านบาท และยังไม่รวมความสามารถกู้เงินที่ปัจจุบันบริษัทไม่มีหนี้ จึงมีความพร้อมที่จะลงทุนในด้านต่าง ๆ มากขึ้น
ส่วนกรณีที่ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เข้าถือหุ้นใหญ่ใน บมจ. อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ THCOM นั้นไม่ได้มีผลกับการบริหารงานของ THCOM ซึ่งมีตัวแทนจาก INTUCH อยู่ในคณะกรรมการบริษัทแล้ว แต่ไม่ได้เข้ามาควบคุมโดยตรง
ด้านนายปฐมภพ สุวรรณศิริ รักษาการรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการค้า ในฐานะว่าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร THCOM กล่าวว่า ธุรกิจของบริษัทปรับจากเดิมมาสู่ Space Air Ground ทำให้บริษัทสามารถเปิดกว้างโอกาสธุรกิจได้มากขึ้น ที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี นอกเหนือจากการใช้ดาวเทียม
THCOM ถือว่ามีประสบการณ์ในธุรกิจดาวเทียมอย่างมืออาชีพ และบริษัทได้เตรียมการเข้าสู่ธุรกิจที่ไม่ใช่เฉพาะดาวเทียม ที่พ้นการรับสัมปทาน โดยบริษัทได้เตรียมตัวมามากกว่า 1 ปี ทำให้การเปลี่ยนผ่านของธุรกิจบริษัทเป็นไปด้วยความราบรื่น