APURE แจงงวด 9 เดือนปีนี้พลิกเป็นขาดทุน เหตุตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 15, 2007 12:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายมนชัย พงศ์สถาบดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อกริเพียว โฮลดิ้งส์(APURE) ชี้แจงผลการดำเนินงานของงวด 9 เดือนแรก เปรียบเทียบ ของปี 2550 และ 2549 ดังนี้ APURE และบริษัทย่อย งวด 9 เดือนปีนี้(2550) ขาดทุนสุทธิ 61.52 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14.08 ล้านบาท 
รายได้จากการขายหลังหักค่าขนส่งของงวด 9 เดือนแรก ปี 2550 มีมูลค่า 1,113.93 ล้านบาท เทียบกับ 980.30 ล้านบาท ของงวด 9 เดือนแรก ปี 2549 เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.63 โดยรายได้หลักยังเป็นรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวาน และผักสด โดยยอดขายเพิ่มขึ้นของงวด 9 เดือนแรก ปี 2550 ที่ 17.43% และ 4.19% มาจากการขายผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวาน และผักสดตามลำดับ
ต้นทุนขายในงวด 9 เดือนแรก ปี 2550 คำนวณจากยอดขายสุทธิหลังหักค่าขนส่ง เพิ่มขึ้น 129.56 ล้านบาท จาก 834.07 ล้านบาท ในปี 2549 เป็น 963.63 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.53 โดยคิดเป็นร้อยละ 86.51 และ 85.08 ของยอดขาย เทียบกับ งวด 9 เดือนแรก ปี 2550 และในปี 2549 ตามลำดับ ค่าใช้จ่ายนี้จะสูงขึ้นตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นโดยเทียบสัดส่วนเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.69 และ 6.39 สำหรับผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวาน และผักสดตามลำดับ และกำไรเบื้องต้นของบริษัทฯ หลังหักต้นทุนขายมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 150.30 ล้านบาท ในปี 2550 เทียบกับ 146.23 ล้านบาท ในปี 2549 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.78
ด้านค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารงวด 9 เดือน เพิ่มขึ้นจาก 114.80 ล้านบาท ในปี 2549 เป็นจำนวน 178.49 ล้านบาท ในปี 2550 หรือร้อยละ 16.02 และ 11.71 ของยอดขายสุทธิหลังหักค่าขนส่ง เนื่องจากได้มีการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญด้วยยอดเงิน 66.35 ล้านบาท ในไตรมาสนี้ แต่อย่างไรก็ตามค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญยอดนี้ จะถูกบันทึกกลับมาเป็นรายได้ในอนาคตหลังจากมีการได้รับชำระเงินจากลูกหนี้ โดยปัจจุบันนี้อยู่ระหว่างการติดตามหนี้และได้รับการทยอยชำระเงินมาแล้วบางส่วน
ค่าขนส่งซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นค่าขนส่งผักสดทางอากาศ และปัจจุบันนี้มีค่าขนส่งผลไม้สดทางเรือ มูลค่าค่าขนส่งของยอดขายผักสดและผลไม้สดจาก 256.69 ล้านบาทในปี 2549 เป็น 257.05 ล้านบาท ในปี 2550 โดยค่าใช้จ่ายนี้จะสูงขึ้นตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่า ยอดขายได้เพิ่มขึ้นแต่ค่าขนส่งไม่ได้สูงขึ้นตามมากนัก เนื่องจากได้มีการการส่งสินค้าทางเรือมากขึ้นซึ่งทำให้ลดต้นทุนค่าขนส่งได้อย่างเป็นนัยสำคัญ
ส่วนดอกเบี้ยจ่าย คือ 15.48 ล้านบาท ของงวด 9 เดือนแรก ปี 2550 ที่เปลี่ยนแปลงจาก 14.27 ล้านบาท ของงวด 9 เดือนแรก ปี 2549 บริษัทฯ มีภาระค่าดอกเบี้ยจ่ายสูงขึ้น เนื่องจากบริษัทได้มีการกู้ยืมเงินเพื่อรองรับการขยายตัวของยอดขาย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ