นายประจินต์ คงสาคร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เจตาแบค (GTB) เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้ในปี 65 เติบโตราว 10% โดยแผนงานของบริษัทจะมีการขยายทั้งตลาดเก่าและตลาดใหม่ควบคู่กัน ซึ่งจะมีการนำผลิตภัณฑ์เก่าไปขยายในตลาดใหม่ๆ และนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆไปขยายในตลาดเก่า เพื่อสร้างยอดขายให้กับบริษัท
ขณะเดียวกันกลยุทธ์ของบริษัทจะเน้นไปที่การเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมกับมุ่งขายระบบ Exhaust Gas By Air Preheater และระบบ Waste Heat System รวมถึงการรับงานออกแบบ (Perfectly coordinated components) เพื่อจะได้กำหนดขนาดผลิตภัณฑ์และประเภทของอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า
นอกจากนี้ การขยายระบบ Electric boiler ไปในกลุ่มอุตสาหกรรมโรงงานผลิตยา โรงงานผลิตวัคซีน และแลป (Lab) และการควบคุมการผลิต ด้วยเทคโนโลยีระบบ PLC และระบบ iGTB ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจถึงระบบเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพและอัจฉริยะของแต่ละโมดูล และจะช่วยให้ระบบควบคุมสามารถบูรณาการได้ง่ายขึ้น
ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/64 คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาส 3/64 เพราะบริษัทสามารถกลับเข้าพื้นที่โครงการต่างๆได้แล้ว หลังจากมีการเปิดประเทศและคลายล็อกดาวน์ ซึ่งผลกระทบจากการล็อกดาวน์ทำให้รายได้ของบริษัทในปีนี้ที่จะลดลงจากปี 63 เนื่องจากไม่สามารถเข้าทำงานในพื้นที่โครงการต่าง ๆ ได้ และภาคธุรกิจต่างชะลอการลงทุน ทำให้ปริมาณงานลดลง
ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 405 ล้านบาท ซึ่งจะมีการทยอยรับรู้รายได้เข้ามาต่อเนื่อง