(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นสิงคโปร์: วิกฤติซับไพรม์รั้งสเตรทส์ไทม์ปิดลบ 45.14 จุด

          ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ (5 พ.ย.) เนื่องจากเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับตลาดสินเชื่อขึ้นอีกครั้ง หลังประธานซิตี้กรุ๊ปลาออกจากตำแหน่ง นอกจากนั้นบริษัทยังคาดการณ์ว่าจะสูญเสียเงินถึง 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจากวิกฤติการณ์ซับไพรม์
          ซิตี้กรุ๊ปได้ออกมายืนยันแล้วว่า นายชาร์ลส์ พรินซ์ ซึ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดเป็นอันดับสองของบริษัท ได้ลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากไม่สามารถต้านทานความสูญเสียที่เกิดจากวิกฤติซับไพรม์ได้ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายสแตนลีย์ โอนีล ซีอีโอของเมอร์ริลล์ ลินช์ ก็ได้ลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน หลังบริษัทเปิดเผยการขาดทุนรายไตรมาสที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์
          นอกจากนั้นหุ้นกลุ่มธนาคารสิงคโปร์ยังถูกเทขายเนื่องจากมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤติการณ์ซับไพรม์ในสหรัฐเกิดขึ้นอีกครั้ง
          สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ปรับลดลง 45.14 จุด หรือ 1.2% ปิดที่ 3,670.18 จุด หลังเคลื่อนไหวในกรอบ 3,635.18 และ 3,716.27 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.2 พันล้านหุ้น มูลค่า 2.4 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
          หุ้นดีบีเอส กรุ๊ป ลดลง 20 เซนต์สิงคโปร์, หุ้นยูโอบี ลดลง 50 เซนต์ ในขณะที่หุ้นโอซีบีซียังทรงตัวก่อนที่จะมีการเปิดเผยผลประกอบการณ์ประจำไตรมาสสาม
          แม้ว่าธนาคารในสิงคโปร์จะได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากวิกฤติซับไพรม์ แต่สถานการณ์ในสหรัฐก็ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลอีกครั้ง
          "ดูเหมือนว่าจะมีแต่ข่าวร้ายทั้งในฮ่องกงและสหรัฐ มีการคาดการณ์ว่าดัชนีสเตรทส์ไทม์จะยังคงผันผวนไปตลอดสัปดาห์ ส่งผลให้นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวัง นักลงทุนบางคนก็ถอยออกมาจากตลาดก่อนที่จะถึงวันหยุดนักขัตฤกษ์ในวันพฤหัสบดีนี้
" เค อาจิตห์ นักวิเคราะห์จาก UOB Kay Hian กล่าว
          นายอาจิตห์กล่าวว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์มีแนวโน้มลดลงแตะระดับ 3,200 จุด ในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากสภาพบรรยากาศการซื้อขายในตลาดช่วงนี้ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดร่วงลงอย่างหนักที่ระดับ 28,942.32 จุด หลังนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีน ประกาศเลื่อนการอนญาตให้นักลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่เข้าไปลงทุนโดยตรงในตลาดหุ้นฮ่องกง ส่งผลให้หุ้นบริษัทจีนในตลาดสิงคโปร์ถูกเทขาย
          โดยหุ้น Yangzijiang ซึ่งเป็นบริษัทต่อเรือของจีน ลดลง 15 เซนต์, หุ้นคอสโค คอร์ป ผู้ดำเนินธุรกิจเดินเรือซึ่งมีอู่ต่อเรือในจีน ลดลง 25 เซนต์ และ หุ้น China XLX ซึ่งเป็นผู้ผลิตปุ๋ย ขยับลง 6 เซนต์
          ด้านหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ยังลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังรัฐบาลประกาศใช้มาตรการป้องกันการซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไร โดยหุ้นซิตี้ เดเวลอปเมนท์ ลดลง 20 เซนต์, หุ้นเคปเพล แลนด์ ขยับลง 5 เซนต์ และ หุ้นแคปปิตัลแลนด์ ลดลง 20 เซนต์