ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,637.63 จุด ลดลง 3.84 จุด (-0.23%) มูลค่าการซื้อขายราว 32,539 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,644.12 จุด และระดับต่ำสุด 1,635.54 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เผชิญแรงขายระยะสั้นหลังจากวานนี้ปรับตัวขึ้นไปแรง คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบไม่มากราว 0.2-0.3% ซึ่งต่างก็เผชิญแรงขายทำกำไรสลับออกมา ท่ามกลางคลายความกังวลเกี่ยวเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนบ้างแล้ว หลังจากที่มีการใช้ยารักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) อนุมัติยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) ของบริษัทเมอร์ค เป็นยารักษาผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งนับเป็นยาตัวที่สองที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้รักษาผู้ป่วยโควิดในสหรัฐ
นอกจากนี้ บริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยผลการวิจัยล่าสุดระบุว่า วัคซีนเข็มบูสเตอร์ของบริษัทมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนได้
ส่วนบ้านเราก็รอลุ้นมาตรการเกี่ยวกับภาษีที่จะเอื้อสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งคาดว่าจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็ว ๆ นี้ พร้อมให้ติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิต และภาคบริการ ของจีน และยุโรป ที่จะเริ่มทยอยออกมาในสัปดาห์หน้า
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งแคบทั้งในแดนบวก-ลบ โดยมีแนวรับ 1,630 จุด ส่วนแนวต้าน 1,645 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 3,817.07 ล้านบาท ปิดที่ 87.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
MAKRO มูลค่าการซื้อขาย 2,611.05 ล้านบาท ปิดที่ 42.50 บาท ลดลง 2.25 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,074.41 ล้านบาท ปิดที่ 94.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
NV มูลค่าการซื้อขาย 913.78 ล้านบาท ปิดที่ 6.70 บาท ลดลง 0.20 บาท TRUE มูลค่าการซื้อขาย 829.82 ล้านบาท ปิดที่ 4.66 บาท ลดลง 0.10 บาท