นายจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สากล เอนเนอยี (SKE) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ในฐานะตัวแทนบริษัท เอ็น15 เทคโนโลยี จำกัด (N15) (บริษัทในเครือ SKE) ร่วมกับบริษัท เอส ซี ไอ อีโค่ เซอร์วิสเซส จำกัด (SCIeco) ร่วมลงนามสัญญาซื้อขายเชื้อเพลิงแข็งจากขยะ RDF (Refuse Derived Fuel) เป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งมีปริมาณการซื้อขายเชื้อเพลิง RDF มากกว่า 400,000 ตัน
ความร่วมมือครั้งนี้ นอกจากเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ ยังส่งเสริมการเติบโตธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดการใช้พลังงานฟอสซิล และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีส่วนสำคัญต่อภาวะโลกร้อน อีกทั้งถือเป็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดที่สำคัญของธุรกิจผลิต และขายเชื้อเพลิงขยะ RDF ของ N15 Technology
โดยในเดือนพ.ย.64 ที่ผ่านมา บอร์ด SKE ได้มีการอนุมัติให้ N15 Technology ลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิงขยะ RDF ซึ่งมีกำลังการผลิตราว 580 ตันต่อวัน หรือประมาณ 200,000 ตันต่อปี โรงงานดังกล่าวนี้จะสามารถผลิตเชื้อเพลิงขยะ RDF ขนาด 35 มิลลิเมตร 50 มิลลิเมตร และขนาดต่ำกว่า 100 มิลลิเมตร เพื่อรองรับความต้องการใช้งานที่หลากหลายของแต่ละอุตสาหกรรมในปัจจุบัน คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการ และเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/65 (ราว 70% ของกำลังการผลิตได้ลงนามสัญญาความร่วมมือกับ SCIeco เรียบร้อยแล้ว) เชื้อเพลิงขยะ RDF ของ N15 Technology ถือเป็นธุรกิจที่ดำเนินการบริหารจัดการขยะเพื่อลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และมุ่งหน้าสู่ Green Energy อย่างยั่งยืนต่อไป
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 65 ชอง SKE คาดว่าจะเติบโตดีกว่าปีนี้ หลังปี 64 ธุรกิจการอัดก๊าซธรรมชาติ (NGV) ค่อนข้างได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาน์ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยจะสามารถรับรู้รายได้ของบริษัท เอ็ม15 เทคโนโลยี จำกัด(N15) เข้ามาเต็มปีในปีหน้า จากปีนี้รับรู้รายได้เพียงครึ่งปี และคาดหวังว่าจะสามารถรับรู้รายได้จากการลงทุนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนบ่อขยะ (Landfill) ซึ่งจะเข้ามาเสริมศักยภาพของโรงงานผลิตเชื้อเพลิงขยะ RDF โดยปัจจุบันมีการเจรจากับพันธมิตรหลายราย ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดจะได้เห็นความชัดเจนในไตรมาส 1/65 และเบื้องต้นตั้งงบลงทุนไว้ที่ไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อแห่ง, การก่อสร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิง RDF ทำให้มองว่าภาพรวมก็น่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้