สมาคมสายการบินประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยสายการบินทั้ง 7 สาย ได้แก่ บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยแอร์เอเชีย, ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์, นกแอร์, ไทยสมายล์, ไทยไลอ้อนแอร์ และไทยเวียตเจ็ท ประกาศความพร้อมการให้บริการช่วงวันหยุดยาวและเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งสายการบินต่างๆ ได้ทยอยกลับมาให้บริการเส้นทางภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกันชูมาตรฐานด้านสาธารณสุขและการคัดกรองผู้โดยสารที่รัดกุม เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทุกสายพันธุ์อย่างดีที่สุด
นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ นายกสมาคมสายการบินประเทศไทย กล่าวว่า ตลอดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สมาคมได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุข พร้อมนำนวัตกรรมต่างๆ มาปรับใช้ เพื่อยกระดับบริการให้มีความปลอดภัยสูงสุดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดกับการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอมิครอน ทำให้ภาครัฐกำหนดมาตรการเฝ้าระวังที่รัดกุมขึ้น สมาคมได้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยกำชับให้ทุกสายการบิน ยังคงเข้มงวดในทุกมาตรการอย่างดีที่สุดสอดคล้องกับมาตรฐานสากล และประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางกับสายการบิน จำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดการโดยสารทางอากาศอย่างเคร่งครัด อาทิ การสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง การปฏิบัติตามมาตรการเข้าออกของแต่ละจังหวัดเกี่ยวข้องกับการได้รับวัคซีนครบโดส และการแสดงผลตรวจโควิด-19 การเว้นระยะห่างทางสังคม การลดการสัมผัส การงดให้บริการอาหาร-เครื่องดื่มบนเครื่อง ฯลฯ รวมทั้งการที่สายการบินมีระบบกรองอากาศที่ทันสมัยมาตรฐานสูงภายในห้องโดยสาร สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กเชื้อไวรัสแบคทีเรียได้ พร้อมทำความสะอาดฆ่าเชื้อเครื่องบินเป็นประจำ ทำให้ทุกคนมั่นใจในการเดินทางได้อย่างเต็มที่
"จากการประกาศของ IATA ยืนยันว่า ห้องโดยสารเครื่องบิน ถือเป็นสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงต่ำมากในการติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงสายพันธุ์โอมิครอนที่เหมือนจะแพร่เชื้อได้ง่ายกว่ารูปแบบอื่นๆ อย่างไรก็ตาม สายการบินขอให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามทุกข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยกันควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติโดยเร็วที่สุดต่อไป" นายพุฒิพงศ์กล่าว
จากการหารือร่วมกับสายการบินต่างๆ พบว่าในช่วงเทศกาล ผู้โดยสารยังคงมั่นใจในการเดินทางภายในประเทศ โดยได้เรียนรู้และปรับพฤติกรรมการเดินทางให้สอดคล้องกับมาตรการต่างๆ อย่างคุ้นชิน ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในภาพรวม