(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ซึมตัวไร้ปัจจัยใหม่-จับตาโควิดโอมิครอน

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดจะแกว่งไซด์เวย์กรอบจำกัดลักษณะซึม ๆ จากบรรยากาศคาดว่าจะเงียบเหงาและตลาดฯไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา หลังจากตลาดต่างประเทศบางแห่งยังปิดทำการในเทศกาลคริสต์มาส ขณะที่ยังต้องจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนที่อาจนำไปสู่การล็อกดาวน์ต้นปีหน้า เพราะขณะนี้เริ่มมีการจัดงานต่าง ๆ เพิ่มขึ้น แต่ประชาชนก็ยังระวังตัวอยู่

นอกจากนี้ สถิติการทำ Window Dressing มีโอกาสเกิด 60% ให้ผลตอบแทน +0.3% ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปี ถือว่าไม่มากนัก เพราะตลาดฯอยู่ในโซนสูงแล้ว อีกทั้งกองทุน LTF จะครบ 7 ปีในปี 65 เป็นปีแรก ทำให้ต้องระวังแรงขายด้วย

ทั้งนี้ สัปดาห์นี้ให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจไทยในวันที่ 30 ธ.ค.นี้ และกำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือนพ.ย.ที่จะออกมาในวันนี้ รวมถึงติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พรุ่งนี้อาจจะมีเรื่องมาตรการสนัลบสนุนรถยนต์ไฟฟ้า (EV)

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบแคบ พร้อมให้แนวรับ 1,635-1,630 จุด ส่วนแนวต้าน 1,645-1,650 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

• ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการ(24 ธ.ค.) เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส
• ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 3.74 จุด หรือ +0.13% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.00 จุด หรือ -0.14% ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันนี้ (27 ธ.ค.) เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส
• ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 ธ.ค.) 1,637.22 จุด ลดลง 4.25 จุด (-0.26%)
• นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,506.17 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.64
• ตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการ (24 ธ.ค.) เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส
• ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 ธ.ค.) อยู่ที่ 6.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
• เงินบาทเปิด 33.47 อ่อนค่าเล็กน้อยจากเย็นวันศุกร์ยังไร้ปัจจัยใหม่
• สรท.หวั่นโอมิครอนลากยาวกระทบเศรษฐกิจคู่ค้าฉุดส่งออกไตรมาส 2-4 ปีหน้า ชี้ตอนนี้คำสั่งซื้อยังมีเข้ามาต่อเนื่องถึงไตรมาส 1 "หอการค้า" รอประเมินความรุนแรงหลังปีใหม่ "ธุรกิจท่องเที่ยว" เสียโอกาสทองช่วงไฮซีซั่น เสี่ยงปิดกิจการอีกครั้ง กระทบจ้างงาน วอนรัฐผ่อนปรนรับทัวริสต์ภายใต้รูปแบบ "แซนด์บ็อกซ์" ธุรกิจหวั่นโอมิครอนยืดเยื้อเบรกอีเวนท์ "อีคอมเมิร์ซ" ชี้ออนไลน์รับอานิสงส์โต 75%
• กกพ.เดินหน้าโซลาร์ภาคประชาชนปี 65 ต่อเนื่อง แต่แนวโน้มปริมาณรับซื้อไฟอาจเหลือ 10 เมกะวัตต์ เบื้องต้นรอกระทรวงพลังงานเคาะชัดเจนอีกครั้ง ล่าสุดลงนามซื้อขายไฟ 851 ราย 4.76 เมกะวัตต์ รวมปี 62-64 จ่ายเข้าระบบ 994 ราย กำลังผลิตติดตั้งแค่ 5.49 เมกะวัตต์ มองแนวโน้มปี 65 ค่าไฟแพง อาจหนุนให้คนหันมาติดตั้งเพื่อลดรายจ่ายมากขึ้น
• นักเศรษฐศาสตร์มองผลกระทบโอมิครอนช่วงสั้น "ซีไอเอ็มบี ไทย" คาดไม่ถึงขั้นล็อกดาวน์ "กรุงไทย" ชี้ซีนาริโอร้ายแรงสุด จีดีพีหาย 1% รายได้สูญ 1.5 แสนล้าน ขณะที่ "เกียรตินาคินภัทร" หวั่นจีดีพีต่ำ 2% หากระบาดรุนแรง "กรุงศรี" ยังยืนประมาณการที่ 3.7% ย้ำพิจารณาความเสี่ยงโอมิครอนแล้ว
• กกพ.เร่งศึกษาอัตราราคาค่าไฟฟ้าชาร์จอีวี สำหรับผู้ติดตั้งและผู้ใช้รถอีวีที่ปัจจุบันกำหนดราคาชาร์จชั่วคราวขายส่งที่ 2.63 บาทต่อหน่วย ระบุเอกชนลงทุนติดตั้งในพื้นที่กทม.อาจจะไม่คุ้มทุน
• บมจ. ท่าอากาศยานไทย(ทอท.) แจ้งการจราจรทางอากาศช่วง 11 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ย.) ปี 2564 ของสนามบินในสังกัดจำนวน 6 แห่งว่ามีปริมาณผู้โดยสารรวม 12.7 ล้านคนลดลง 70.34% หรือลดลง 30.3 ล้านคน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 43 ล้านคน แบ่งเป็นผู้โดยสารในประเทศ 11.6 ล้านคน ลดลง 57.80% และระหว่างประเทศ 1.1 ล้านคน ลดลง 92.85%

*หุ้นเด่นวันนี้

• CK (กรุงศรี)"ซื้อ"เป้า 23.8 บาท วันนี้ รฟม. จะเปิดให้ภาคเอกชนเข้ายื่นซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้มูลค่า 7.8 หมื่นล้านบาท คาด CK เป็นเต็งหนึ่งที่จะชนะการประมูลเนื่องจากโครงการส่วนใหญ่เป็นรถใต้ดินซึ่งมีประสบการณ์มากที่สุด
• BEC (คิงส์ฟอร์ด)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า IAA Consensus 15.30 บาท แนวโน้มกำไร Q4/64 ฟื้น QoQ ตามเม็ดเงินโฆษณากระตุ้นการจับจ่ายท้ายปีหนุนจากการผ่อนคลายล็อกดาวน์และการเปิดประเทศ คาดอัตราใช้สื่อโฆษณาจะเพิ่มมาที่ 70% เทียบกับ Q3/64 ที่ 60% ส่วนปี 65 คาดรายได้เติบโตจากการผลิตคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์คนดูมากขึ้น และรองรับการขายให้ Partnership Platform ต่างประเทศ รวมถึงการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์ละครไปต่างประเทศ อีกทั้งยังหนุนเม็ดเงินโฆษณาบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะ CH3 Plus ปัจจุบันอยู่ระหว่างปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณาในปีหน้า
• RBF (เคทีบีเอสที) "ซื้อ"เป้า 29 บาท คาดรับรู้รายได้กัญชงตามแผนหลังปลูกเพิ่มเป็น 100 ไร่ โดยกำไรปี 65 ยังมี upside หากสามารถสกัดสาร CBD มากกว่า 3% และ Demand มีแนวโน้มสูงกว่าที่คาด หากวันเปิดตัวสินค้าได้รับกระแสตอบรับที่ดี และ Key catalyst คือ กำไร Q1/65 โตแบบก้าวกระโดด จากการที่เป็นไตรมาสแรกที่เริ่มรับรู้รายได้กัญชง