รมช.คมนาคม เผยได้ซักซ้อมทำความเข้าใจในประเด็นต่างๆ ร่วมกับปลัดกระทรวง อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT) หรือ ทอท.เพื่อเตรียมข้อมูลที่จะไปชี้แจงต่อศาลปกครอง ในวันที่ 26 พ.ย.นี้ หลังกลุ่มชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิร้องขอให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งปิดสนามบินชั่วคราวช่วงกลางคืน
"ไม่สบายใจที่มีการฟ้องร้องเกิดขึ้น เพราะเราได้ตั้งคณะกรรมการร่วม 3 ฝ่ายเพื่อหาทางออกปัญหานี้ไปแล้ว ต้องยอมรับว่า ทอท.ทำงานช้า ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจึงต้องยื่นฟ้องศาล" นายสรรเสริญ กล่าว
ทั้งนี้ กลุ่มประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเสียงหลังเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ยื่นฟ้อง ทอท., รมว.คมนาคม , รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ โดยขอให้ศาลมีคำสั่งปิดการใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระหว่างเวลา 22.00-05.00 น.เป็นการชั่วคราว
กระทรวงคมนาคมยืนยันว่า ประชาชนที่อยู่ในเขตพื้นที่ NEF 40 ซึ่งมีระดับเสียงเกิน 70 เดซิเบล จะได้รับความช่วยเหลือแน่นอน ส่วนประชาชนที่อยู่ในเขต NEF30-40 คงต้องหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่ง ทอท.มีภาระทางการเงิน จึงต้องเสนอขอรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการสรุปวงเงินค่าชดเชยที่ชัดเจน หากภาระรัฐบาลมากเกินไปจะเป็นปัญหาโดยส่วนรวม
ด้าน พล.อ.ท.ชนะ อยู่สถาพร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายของ ทอท.จะเร่งทำหนังสือชี้แจงต่อศาลปกครองถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นหากหยุดการบินในช่วงเวลาดังกล่าว โดยจะสร้างความเสียหายทั้งในส่วนของกฎการบิน รายได้ และเศรษฐกิจของประเทศอย่างมหาศาล โดยปัจจุบันเที่ยวบินที่ทำการบินในเวลาดังกล่าวมีประมาณ 150 เที่ยวบิน และเป็นเที่ยวบินในเส้นทางยุโรปเป็นหลัก
"รู้สึกหนักใจกรณีที่ชาวบ้านรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิไปฟ้องศาลปกครอง และคงต้องรอผลการพิจารณาจากศาล ขณะเดียวกัน ทอท.ได้เตรียมแผนสำรองไว้ในกรณีมีคำสั่งให้หยุดบินชั่วคราว เช่น การเปิดใช้ท่าอากาศยานดอนเมือง" พล.อ.ท.ชนะ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย คคฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--