(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นเกาหลีใต้: พิษดาวโจนส์ทรุดฉุดคอมโพสิตปิดร่วงหนัก 43.8 จุด

          ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ (2 พ.ย.) จากแรงเทขายของนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากตลาดได้รับปัจจัยลบจากการปิดทรุดตัวลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนที่ผ่านมา
          นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัวลง และคาดว่าเฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ขณะที่สถานการณ์ราคาน้ำมันที่ทะยานพุ่งสูงขึ้น และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ผันผวนได้ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่า ภาวะเศรษฐกิจของเกาหลีใต้จะสามารถยืนหยัดอย่างแข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่องหรือไม่
          โดยในช่วงเที่ยงวันนี้ ตลาดฟื้นตัวขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไรของนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยที่เข้าช้อนซื้อหุ้น หลังจากที่ดัชนีดิ่งร่วงลงในการซื้อขายช่วงเช้า แต่ต่อมาตลาดกลับแกว่งตัวผันผวนตามการปิดลบของตลาดหุ้นทั่วภูมิภาครวมถึงตลาดหุ้นญี่ปุ่น
          สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีคอมโพสิตปิดร่วงลง 43.8 จุด หรือ 2.1% แตะที่ระดับ 2,019.34 จุด หลังจากเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ 2,014.65 - 2,049.44 จุด
          ชิม แจ-ยอพ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์เมอริทซ์กล่าวว่า "นักลงทุนต่างตื่นตระหนกต่อความเคลื่อนไหวของตลาด แต่คาดว่าดัชนีน่าจะกลับมามีเสถียรภาพอย่างรวดเร็วอีกครั้ง เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในก่อนหน้านี้"
         นอกจากนี้ รายงานข่าวระบุว่า ซีไอบีซี เวิลด์ มาร์เก็ตส์ได้ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นซิตี้กรุ๊ป อิงค์ และแบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดสองแห่งของสหรัฐ จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาสินเชื่อ โดยการปรับลดอันดับครั้งนี้เป็นผลมาจากผลประกอบการที่ซบเซาในไตรมาสที่สาม
          อย่างไรก็ตาม เขาคาดว่า สถาบันการเงินหลายแห่งอาจมีบรรยากาศการดำเนินธุรกิจที่ดีขึ้นในไตรมาสที่สี่นี้  
          "นักลงทุนจะจับตาดูความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นนิวยอร์กอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้ความสนใจข้อมูลจ้างงานของสหรัฐในเดือนต.ค. เนื่องจากจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงบรรยากาศด้านการค้าในสัปดาห์หน้า"
          อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายหุ้นในวันนี้เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 382 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 8.6 ล้านล้านวอน
          หุ้นกลุ่มสถาบันการเงินได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยหุ้นกุ๊กมินปิดร่วงลง 3.2% หุ้นชินฮานปิดทรุดตัวลง 3.1% และหุ้นวูริ ไฟแนนเชียลปิดร่วงลง 5.6%
          หุ้นแอลจี เคมปิดพุ่งขึ้น 5.6% จากความหวังที่ว่าบริษัทจะได้รับประโยชน์จากการควบรวมกิจการกับแอลจี ปิโตรเคมิคอล
          ขณะที่หุ้นโคเรีย แอร์ถีบตัวสูงขึ้น 3.5% จากคาดการณ์ที่ว่า สายการบินดังกล่าวจะปรับขึ้นค่าน้ำมัน ท่ามกลางสถานการณ์ด้านราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น