ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) จากแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดิ่งลงกว่า 120 จุด เนื่องจากความกังวลเรื่องตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 72.5 จุด ปิดที่ 6,359.6 จุด หลังจากทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวันที่ 6,465.4 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.3 พันล้านหุ้น
หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สร่วงลง 523.5 เพนซ์ ปิดที่ 569.5 เพนซ์ หลังจากธนาคารได้ปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ในบัญชีลง 1.3 พัน ล้านปอนด์เพราะปัญหาในตลาดสินเชื่อ
ข่าวดังกล่าวส่งผลให้หุ้นธนาคารรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 18.5 เพนซ์ ปิดที่ 448.5 เพนซ์ หุ้นธนาคารนอร์ทเธิร์นร็อค ร่วงลง 4.5 เพนซ์ ปิดที่ 134.7 เพนซ์ และหุ้นอัลไลอันซ์ แอนด์ ลีเซสเตอร์ รูดลง 21 เพนซ์ ปิดที่ 647 เพนซ์
ส่วนหุ้นกลุ่มน้ำมันดิ่งลงหลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากรายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐที่ระบุว่า น้ำมันดิบสำรองประจำสัปดาห์เพิ่มขึ้นเกินคาด โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 10 เพนซ์ ปิดที่ 1,933 เพนซ์ และหุ้นบีพีดิ่งลง 13.5 เพนซ์ ปิดที่ 586 เพนซ์
หุ้นสก็อตติช แอนด์ นิวคาสเซิล ปรับตัวขึ้น 16.5 เพนซ์ ปิดที่ 757 เพนซ์ หลังจากบริษัทไฮเนเก้นและคาร์ลสเบิร์ก ประกาศเพิ่มข้อเสนอการซื้อกิจการของสก็อตติช แอนด์ นิวคาสเซิล เป็น 750 เพนซ์ต่อหุ้น
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--