นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ตลท.ได้ออกหลักเกณฑ์เฉพาะกิจในการยื่นคำขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.50 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.ฏ.ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดหย่อนอัตรารัษฎากรแก่บริษัทที่ยื่นคำขอเข้าจดทะเบียนภายในปี 50 ซึ่งมีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.50
การปรับหลักเกณฑ์ใหม่นี้ได้ปรับคุณสมบัติของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนจากเดิมที่ต้องเป็นบริษัทมหาชนจำกัดเท่านั้น เป็นให้บริษัทที่จะยื่นคำขอมีสถานะเป็นบริษัทมหาชนจำกัด หรือเป็นบริษัทจำกัดที่คณะกรรมการของบริษัทมีมติให้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัดแล้วได้ และมีความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินที่ได้พิจารณาในเบื้องต้นถึงความเป็นไปได้ว่าบริษัทจะมีคุณสมบัติครบถ้วน ทั้งนี้ การปรับปรุงหลักเณฑ์ดังกล่าวนี้ จะมีผลบังคับใช้สำหรับบริษัทที่จะยื่นคำขอภายใน 31 ธ.ค.50 นี้เท่านั้น
บริษัทที่มีสิทธิ์จะได้รับส่วนลดภาษีเงินได้นิติบุคคล 5% กรณียื่นคำขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และ 10% กรณียื่นคำขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ตามที่กำหนดในพ.ร.ฎ.จะต้องยื่นคำขอจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 31 ธ.ค.50 และเปลี่ยนสถานะเป็นบริษัทมหาชนจำกัด และมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมทั้ง สามารถซื้อขายได้ภายใน 31 ธันวาคม 2551
“การปรับหลักเกณฑ์ครั้งนี้ เป็นการเอื้ออำนวยให้มีบริษัทเข้าจดทะเบียนได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น โดยพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการลดหย่อนอัตรารัษฎากรนี้ ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี 3 ปีบัญชี แก่บริษัทที่ยื่นคำขอเข้าจดทะเบียนภายในสิ้นปีนี้ และซื้อขายได้ภายในปี 51 ซึ่งเชื่อว่าจะจูงใจให้มีบริษัทเข้าจดทะเบียนมากขึ้นในปีนี้"นางภัทรียากล่าว
ในทางปฏิบัติ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเริ่มพิจารณาคุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอฯ เมื่อได้รับแบบแจ้งความประสงค์ให้พิจารณาคำขอพร้อมเอกสารประกอบแบบคำขอฯ และบริษัทได้ยื่นคำขอกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และได้รับหนังสือตอบรับการยื่นคำขอจาก ก.ล.ต. แล้ว
--อินโฟเควสท์ โดย ตลฦ/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--