นายนริศ เชยกลิ่น รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดเผยว่า บริษัทมีแนวโน้มไปเสนอขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์ใหม่พร้อมจดทะเบียนในตลาดสิงคโปร์ หากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ยังไม่ยกเลิกมาตรการสำรอง 30% โดยบริษัทจะตัดสินใจหลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ เนื่องจากเชื่อว่ารัฐบาลใหม่อาจจะเข้ามาทบทวนมาตรการสำรอง 30%
"การไปจดทะเบียนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ตลาดหุ้นสิงคโปร์จำเป็นต้องใช้สินทรัพย์ขนาดใหญ่ จากแผนเดิมทีจะขยายกองทุนอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF )อีก 7-8 พันล้านบาท ซึ่งถ้านำโครงการเซ็นทรัลปิ่นเกล้าแห่งเดียวจะไม่เพียงพอ และมีความเป็นไปได้ที่เราจะไปสิงคโปร์เพื่อระดมทุนรองรับการลงทุนในอนาคต แต่เราจะต้องสร้างความน่าสนใจนอกจากโครงการในประเทศจะต้องมีการลงทุนในโครงการต่างประเทศ เพื่อให้ฝรั่ง รู้จักเรามากขึ้น" นายนริศกล่าว
ขณะนี้ได้ดำเนินการเข้าลงทุนในเวียดนาม โดยอยู่ขั้นตอนยื่นเสนอราคาซื้อที่ดิน แต่ยังไม่สรุปราคากับเจ้าของที่ดิน ส่วนที่อินเดียอยู่ระหว่างการศึกษาพื้นที่ที่จะเข้าลงทุน ซึ่งขณะนี้ศึกษาอยู่หลายเมือง
*เล็งออกกองทุนอสังหาฯออฟฟิศขายใน H1/51
ขณะเดียวกันบริษัทมีแผนจะกองทุนอสังริมทรัพย์ Office Fund ที่จะนำอาคารสำนักงานเซ็นทรัลเวิลด์เป็นสินทรัพย์ในกองทุน ในช่วงครึ่งแรกของปี 51 เสนอขายให้กับนักลงทุนในประเทศ ขณะนี้ รอประเมินราคาสินทรัพย์ของอาคารสำนักงานฯ เพื่อนำเงินไปลงทุนโครงการเซ็นทรัลพลาซา หลายโครงการ
นอกจากนี้ หากแผนการเสนอขายกองทุนอสังริมทรัพย์ Office Fund ไม่สำเร็จ บริษัทก็มีแผนสำรองที่จะออกหุ้นกู้จำนวน 5 พันล้านบาทแทน ซึ่งคาดว่าจะเสนอขายได้ในช่วงครึ่งหลังปี 51
" ถ้าครึ่งปีแรกเป้าหมายการออกกองทุนอสังหาฯไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้ เราก็มีแผนรองรับในการออกหุ้นกู้ เนื่องจากยังมีวงเงินเหลือ 5 พันล้าน ซึ่งจะเพียงพอต่อการลงทุนในปีหน้า ถือเป็นแผนสองของเรา" นายนริศกล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมีกระแสเงินสด 3 พันล้านบาท และคาดว่าจะได้เพิ่มจากผลการดำเนินงานอีก 3 พันล้านบาท ก็จะเพียงพอต่อการลงทุนในปี 51 ที่คาดว่าจะใช้เงิน 8.42 พันล้านบาท ซึ่งเพิ่มจากแผนเดิมที่คาดว่าใช้ 7.1 พันล้านบาท
ส่วนในปี 50 คาดว่าจะใช้งบลงทุนจำนวน 4.25 พันล้านบาทต่ำกว่าแผนที่คาดว่าจะใช้ 6.9 พันล้านบาท เนื่องจากโครงการยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก สาเหตุหลักจากการที่ไม่สามารถหาผู้รับเหมามาก่อสร้างได้ตามกำหนด รวมทั้งแบบก่อสร้างก็เสร็จล่าช้า
ด้านรายได้ในปี 51 คาดว่าจะมีอัตราเติบโตใกล้เคียงกับปีนี้ เป็นตัว 2 หลัก โดยรายได้หลักมาจากเซ็นทรัลเวิลด์ที่จะเปิดให้บริการเต็มพื้นที่ 100% โดยในส่วนโรงแรมคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 2 ปี 51 และจะรับรู้รายได้จากสาขารัตนาธิเบศร์ , สาขารามอินทรา รวมทั้งจะมีการเปิดสาขาใหม่ที่ แจ้งวัฒนะ
"ปีหน้า เราจะเปิดสาขาเดียวที่แจ้งวัฒนะ ใช้งบการตลาด 200-300 ล้านบาท จากปีนี้ที่ใช้งบ 500 ล้านบาท แต่ปี 52 จะเปิดสาขาใหม่อีก 3 สาขา"นายนริศ กล่าว
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/เสาวลักษณ์/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--