ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดลดลงอย่างหนักในวันนี้ (2 พ.ย.) ตามตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค หลังจากที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัว และราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ลดลง 88.24 จุด หรือ 2.3% ปิดที่ 3,715.32 จุด หลังจากเคลื่อนไหวในกรอบ 3,695.94 และ 3,746.98 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 2.4 พันล้านหุ้น มูลค่าการซื้อขาย 2.9 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
ตลาดหุ้นทั่วทั่งภูมิภาคดิ่งลงอย่างหนักหลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ทรุดลงกว่า 360 จุด ตลอดจนข้อมูลล่าสุดของสหรัฐระบุว่า เศรษฐกิจของสหรัฐชะลอตัวลง โดยค่าใช้จ่ายภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 0.4%
"มีความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจของสหรัฐอาจจะชะลอตัวลงอีก รวมถึงข่าวร้ายนอกเหนือจากภาคการเงิน และนั่นอาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลก" แดเนียล แม็คคอร์แมก นักยุทธศาสตร์จากแม็คควอรี ซิเคียวริตี้ส์กล่าว
นอกจากนี้ ความกังวลยังรวมถึงการที่ราคาน้ำมันสูงขึ้นซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐชะลอตัวลงอีก
"ปัญหาในขณะนี้เป็นอุปสรรคที่ทำให้เราไม่สามารถประเมินผลกระทบที่แท้จริงจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ทั้งในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อ และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ" ฮวง ยีปิง นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปกล่าว
ทั้งนี้ เขาเชื่อว่าตลาดเงินในเอเชียคาดจะยังเติบโตไปด้วยดี แต่ก็จำเป็นต้องระมัดระวังความเสี่ยงในปัจจุบันด้วย
หุ้นกลุ่มธนาคารลดลง โดยหุ้นดีบีเอส กรุ๊ป ขยับลง 1 เซนต์ หุ้นธนาคารยูโอบี ร่วงลง 40 เซนต์ และหุ้นโอซีบีซี ลดลง 15 เซนต์
ส่วนหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ลดลงเช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนกลับมามีท่าทีวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการล่าสุดที่รัฐบาลประกาศใช้ เพื่อบรรเทาความร้อนแรงในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์
หุ้นแคปิตอลแลนด์ ลดลง 30 เซนต์ และหุ้นซิตี้ ดีเวล้อปเม้นท์ ลดลง 30 เซนต์
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--