นายพินิจ พัวพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บล.ซีมีโก้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในการกระจายหุ้น บมจ.โลหะกิจ เม็ททอล คาดว่า โลหะกิจฯ จะสามารถเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก(IPO)จำนวน 80 ล้านหุ้น หรือ 25% ของจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ และนำหุ้นเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯภายในปีนี้
"คาดว่าก.ล.ต.จะอนุมัติไฟลิ่งของบมจ.โลหะกิจฯภายในเดือนนี้ และจะพยายามซื้อขายให้ทันก่อนสิ้นปีนี้ นอกจากนี้จะมีการโรดโชว์ในประเทศด้วย"นายพินิจ กล่าว
ด้านนายประสาน อัครพงศ์พิศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.โลหะกิจ เม็ททอล เปิดเผยว่า บริษัทมีความเชื่อมั่นในศักยภาพและความแข็งแกร่ง จึงเตรียมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อระดมทุนสำหรับการขยายธุรกิจและเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม
ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 320 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 320 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เป็นทุนที่ชำระแล้ว 240 ล้านบาท
นายประสาน กล่าวว่า บริษัทมีแผนจะนำเงินที่ได้จาการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 80 ล้านหุ้นไปใช้ก่อสร้างอาคาร จัดซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ รวมทั้งใช้คืนเงินกู้ยืมบางส่วน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจต่อไป
"เงินที่ได้จากการขายหุ้น 80 ล้านหุ้น บางส่วนจะนำมาชำระหนี้จากปัจจุบันที่มีหนี้ระยะสั้น 200-300 ล้านบาท หนี้ระยะยาว 160 ล้านบาท นอกจากนี้ยังจะนำบางส่วนไปซื้อเครื่องจักร 133 ล้านบาท ที่เหลือนำไปเป็นทุนหมุนเวียน"นายประสาน กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่าภายใน 2 ถึง 3 ปีข้างหน้า ปริมาณความต้องการบริโภคสเตนเลสจะเพิ่มสูงขึ้น อันเนื่องมาจากโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐต่าง ๆ เช่น โครงการส่วนต่อขยายระบบขนส่งระบบรางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โครงการรถไฟรางคู่ เป็นต้น
ปริมาณการบริโภคสเตนเลสในประเทศไทย มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกับการเติบโตของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมเครื่องครัวและเครื่องใช้ ซึ่งในแต่ละอุตสาหกรรมมีส่วนในการผลักดันให้อุตสาหกรรมสเตนเลสในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้ง บริษัทฯ มีเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในการเป็นผู้นำด้านการแปรรูปสเตนเลสม้วนอย่างครบวงจรที่มีการให้บริการครอบคลุมและสมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านการจัดหาผลิตภัณฑ์ การแปรรูปผลิตภัณฑ์สเตนเลสโดยการตัดตามขนาดตัดเป็นแถบม้วน การขัดพื้นผิว การเจาะรูและปั๊มกลม รวมถึงการผลิตและจำหน่ายท่อสเตนเลส และการจำหน่าย สเตนเลสเกรดเฉพาะ
บริษัทมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่าง ๆ ภายในประเทศ ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน อิเลคทรอนิกส์ ยานยนต์ และอาหาร ด้วยการนำวิธีการจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management) มาใช้ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งซัพพลายเออร์ บริษัทและบริษัทย่อย และลูกค้า ทำให้มีการบริหารต้นทุนและบริหารจัดการสินค้าคงคลังที่มีประสิทธิภาพ และส่งผลให้ลูกค้าได้รับประโยชน์ในด้านได้รับมอบสินค้าตรงตามกำหนดเวลา และไม่มีค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บสินค้าไว้ในปริมาณที่เกินความต้องการ ซึ่งช่วยลดต้นทุนของลูกค้าอีกด้วย
--อินโฟเควสท์ โดย สารภี สายะเวส/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--