นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายกำไรสุทธิปี 65 เติบโต 45% โดยจะเป็นการทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องจาก หลังจากที่ปี 64 บริษัทได้ซื้อหนี้เข้ามาบริหารจำนวนมากและการเก็บเงินสด (Cash Collection) สูงขึ้น
ขณะที่ปี 65 บริษัทตั้งงบลงทุนในการซื้อหนี้ด้อยคุณภาพรวม 10,000 ล้านบาท มองว่าสถาบันการเงินจะมีการขายหนี้ออกมาจำนวนมาก หลังลูกค้าได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการแพร่ระบาดจำนวนมากและยาวนาน
นอกจากนี้ ล่าสุด JMT ได้เปิดดีลร่วมลงทุนกับบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารกสิกรไทย (KBANK) โดยผ่านบริษัทลูกของ KBANK เตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อประกอบธุรกิจร่วมกัน ในธุรกิจให้บริการงานติดตามหนี้ และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และคาดจะเห็นการต่อยอดธุรกิจเพิ่มเติมจากธุรกิจปัจจุบันของของ JMT ผ่านการจับมือพันธมิตรรายใหม่เพิ่มเติม โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/65 และทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ในไตรมาส 3 เป็นต้นไป และในปี 66 คาดว่าจะรับรู้รายได้ได้เต็มปี