SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,660.40 จุด ลดลง 16.39 จุด (-0.98%) มูลค่าการซื้อขายราว 59,913 ล้านบาท นักวิ เคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยร่วงแรงตามทิศทางตลาดต่างประเทศหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด รวมทั้งยังจะลดงบดุลฯทันทีเป็นปัจจัยช็อกตลาด ส่งผลแห่ลดน้ำหนักลงทุนทุบตลาดหุ้นทั่วโลก ส่วนบ้านเราตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดเร่งตัวอีกครั้งกดดันกลุ่มเปิดเมือง-ท่องเที่ยว และยังต้องเฝ้าระวังช่วง 7-14 วัน ช่วงบ่ายคาดตลาดยังแกว่งลบ ให้แนวต้าน 1,670 จุด แนวรับ 1,654 จุด และ 1,640 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,660.40 จุด ลดลง 16.39 จุด (-0.98%) มูลค่าการซื้อขายราว 59,913 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ โดยทำระดับสูงสุด 1,666.22 จุด และระดับต่ำสุด 1,654.52 จุด
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ร่วงลงแรงตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด หรืออาจจะเป็นในเดือน มี.ค.นี้ รวมทั้งระบุว่าจะปรับลดขนาดงบดุลบัญชี (Balance Sheet) ทันทีที่ขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเรื่องนี้ตลาดฯ ไม่ได้รับรู้ล่วงหน้า หรือ price in มาก่อน จึงเกิดการลดน้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้น ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกปรับตัวลง
ประกอบกับในบ้านเราสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ที่มีการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์ใหม่โอมิครอน ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้เร่งตัวขึ้นมาอีกครั้ง กดดันหุ้นในกลุ่มเปิดเมืองและกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังช่วง 7-14 วันจากนี้
แนวโน้มการลงทุนช่วงบ่ายคาดว่าตลาดยังแกว่งตัวในแดนลบ พร้อมให้แนวต้านที่ 1,670 จุด แนวรับที่ 1,654 จุด และ 1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,610.99 ล้านบาท ปิดที่ 142.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 2,588.15 ล้านบาท ปิดที่ 98.25 บาท ลดลง 1.00 บาท
KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,862.35 ล้านบาท ปิดที่ 84.50 บาท ลดลง 4.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,762.09 ล้านบาท ปิดที่ 11.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 1,718.71 ล้านบาท ปิดที่ 27.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท