นายธีร ชุติวราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อัลฟ่า ดิวิชั่นส์ (ALPHAX) หรือเดิมคือ บมจ.โอเชี่ยน คอมเมิรช (OCEAN) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเมื่อวันที่ 10 ม.ค.65 มีมติอนุมัติให้เข้าซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท มหทุน โฮลดิ้ง จำกัด (MHTH) รวม 7,677,500 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ราคาหุ้นละ 26.240964 บาท คิดเป็น 76.78% ของทุนจดทะเบียน จากบริษัท บี ริช โฮลดิ้ง จำกัด ด้วยมูลค่าราว 201.47 ล้านบาท โดยวิธีการโอนกิจการทั้งหมด (Entire Business Transfer : EBT) ภายหลังการทำธุรกรรมดังกล่าว MHTH จะถือเป็นบริษัทย่อยของ ALPHAX
ALPHAX จะชำระค่าหุ้นสามัญของ MHTH โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) ให้แก่ผู้ขายแทนการชำระด้วยเงินสด จำนวนไม่เกิน 108,900,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ราคาเสนอขายหุ้นละ 1.85 บาท คิดเป็นมูลค่าไม่เกิน 201,465,000 บาท (Share Swap) คิดเป็นอัตราแลกเปลี่ยนหุ้นเท่ากับ 1.000000 หุ้นของ MHTH ต่อ 14.184305 หุ้นใหม่ของบริษัท ซึ่งบริษัทมีความเห็นว่าราคาดังกล่าวนั้นเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้นเมื่อพิจารณาถึงมูลค่าของ MHTH และมูลค่าหุ้นปัจจุบันของบริษัท
บริษัทจะมมีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2565 ในวันที่ 4 มี.ค.65 เวลา 10.00 น.ด้วยวิธีการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record Date) ในวันที่ 4 ก.พ.65 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน 27,225,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 452,418,389.50 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 479,643,389.50 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวนไม่เกิน 108,900,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด ได้แก่ บริษัท บี ริช โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อเป็นค่าตอบแทนสำหรับหุ้นสามัญของ MHTH โดยวิธีการแลกหุ้น
"การเข้าลงทุนในครั้งนี้เป็นการแตกไลน์ก้าวเข้าสู่ธุรกิจไฟแนนซ์ ภายหลังจากการเข้าไปลงทุนในบริษัท MHTH จะทำให้ ALPHAX กลายบริษัทเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท มะหะทุน เช่าสินเชื่อ มหาชน ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในสปป.ลาว และยังมีฐานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลาว มีความสามารถในการทำกำไรสุทธิในระดับสูง จะช่วยสนับสนุน ALPHAX มีรายได้และกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด"
ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 65 บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 200% โดยจะมุ่งเน้นพัฒนาทั้ง 3 ธุรกิจ โดยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เตรียมจะเปิดตัวโครงการที่เน้นไปทางแนวราบ และโครงการอาคารสำนักงานเพื่อเช่า คาดว่าในปีนี้จะมีการเปิดตัวโครงการทั้งหมด 4-5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยยังคงมองหาที่ดินที่สามารถพัฒนา Product ที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้จริงๆ เช่น บ้านเดี่ยวและบ้านแฝดในพื้นที่นอกเมือง
ขณะที่ธุรกิจกัญชง-กัญชาคาดว่าจะได้ใบอนุญาตการสกัดภายในไตรมาส 1/65 และจะเร่งเปิดตัวลูกค้าที่เป็นพันธมิตร เพื่อเร่งวิจัยและพัฒนาสารสกัดให้พร้อมสำหรับเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่เป็น Production scale ซึ่งที่จะเข้ามาในช่วงครึ่งปีหลัง
ส่วนธุรกิจไฟแนนซ์ที่ สปป.ลาว วางเป้าหมายเบื้องต้นไว้ว่าจะเข้าไปทำการตลาดให้มากขึ้น รวมทั้งขยายผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น นาโนไฟแนนซ์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นต้น คาดว่าในปีนี้จะมีการรับรู้รายได้จากบริษัท มะหะทุน เช่าสินเชื่อ มหาชน ซึ่งแต่ละปีจะมีกำไรจากการดำเนินงานไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท