(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ข่าวซิตี้กรุ๊ปขายหุ้น ดันดาวโจนส์ปิดพุ่ง 215 จุด

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (27 พ.ย.) หลังจากมีข่าวว่าซิตี้กรุ๊ปประกาศขายหุ้นมูลค่า 7.5 พันล้านดอลลาร์ให้กับสำนักงานการลงทุนแห่งอาบูดาบี ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเรื่องสถานะของซิตี้แบงค์ หลังจากที่ธนาคารต้องขาดทุนอย่างหนักเนื่องจากวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อ
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้น 215.00 จุด หรือ 1.69% แตะระดับ   12,958.44 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 21.01 จุด หรือ 1.49% แตะระดับ 1,428.23 จด และ ดัชนี Nasdaq ปิดดีดขึ้น 39.81 จุด หรือ 1.57% แตะระดับ 2,580.80 จุด
          ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 1.65 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 9 ต่อ 5 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ประมาณ 2.24 พันล้านหุ้น
          เมื่อวานนี้ ซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยว่า ธนาคารได้บรรลุข้อตกลงขายหุ้นให้กับสำนักงานการลงทุนแห่งอาบูดาบี ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นวงเงินมูลค่า 7.5 พันล้านดอลลาร์
          ทั้งนี้ เซอร์ วิน บิชอฟฟ์ รักษาการซีอีโอของซิตี้กรุ๊ปกล่าวในแถลงการณ์ว่า "การที่สำนักงานการลงทุนแห่งอาบูดาบีซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันการลงทุนที่มั่งคั่งและมีชื่อเสียงระดับโลกได้เข้าซื้อหุ้นในซิตี้กรุ๊ปครั้งนี้ จะช่วยให้ซิตี้กรุ๊ปมีกระแสเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้นและสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจให้กับซิตี้กรุ๊ป"
          ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 200 จุด เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าธุรกิจการเงินของสหรัฐจะยังคงแข็งแกร่งแม้ปัญหาในตลาดสินเชื่อยังคงมีอยู่ 
          นายท้อด ซาลาโมน นักวิเคราะห์จากบริษัทเชฟเฟอร์ส อินเวสท์เมนท์ รีเสิร์ชกล่าวว่า "ข่าวซิตี้กรุ๊ปขายหุ้นให้อาบูดาบีช่วยให้ตลาดคลายความกังวล หลังจากมีข่าวลบเข้ามาหลายระลอกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สำนักงานการลงทุนแห่งอาบูดาบีมีเงินสดเป็นจำนวนมาก ซึ่งนักลงทุนมองว่าสำนักงานแห่งนี้จะเข้ามาช่วยกอบกู้สถานะทางการเงินของซิตี้กรุ๊ปได้ และยิ่งค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงในเวลานี้ ก็ยิ่งเป็นปัจจัยบวกต่อการทำข้อตกลงครั้งนี้ด้วย"
          อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังจากนายชาร์ลส์ พลอสเซอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียกล่าวว่า เขาจะไม่แปลกใจถ้าหากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้นั้น ออกมาอ่อนแอ พร้อมกับเตือนว่าการที่เฟดตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น 2 ครั้งในช่วงที่ผ่านมานั้น ได้ทำให้อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐพุ่งสูงขึ้น ขณะที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ผู้ว่าการเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่า ภาวะผันผวนในตลาดการเงินจะส่งผลให้ปริมาณการลงทุนในภาคธุรกิจลดน้อยลง และทำให้ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคลดลงด้วย
          นอกจากนี้ สำนักงานคอนเฟอร์เรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงแตะระดับ 87.3 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 95.2 ในเดือนต.ค. และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2548 
          ทั้งนี้ หุ้นซิตี้กรุ๊ปพุ่งขึ้น 52 เซนต์ ปิดที่ 30.32 ดอลลาร์ จากข่าวที่ว่าสำนักงานการลงทุนแห่งอาบูดาบีจะเข้าซื้อหุ้นในซิตี้กรุ๊ป โดย ชี้ค อาหมัด บิน ไซเอ็ด อัล นาฮายัน ผู้บริหารของสำนักงานแห่งนี้กล่าวว่า ซิตี้กรุ๊ปเป็นแบรนด์ชั้นนำและมีโอกาสที่จะเติบโตสูงมาก
          หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์พุ่งขึ้น 3.9% และหุ้นเมอร์ริล ลินช์ ดีดขึ้น 3.6% แม้ก่อนหน้านี้สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ประกาศลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นทั้ง 2 ตัวลงสู่ระดับ "sell" ก็ตาม