นายวิชิต พยุหนาวีชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด ในเครือ บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมพร้อมร่วมกับที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 65 ถือว่าเร็วกว่าแผนเดิมที่กำหนดไว้ในปี 66-67 หลังจากที่บริษัทได้มีการดำเนินงานมาเป็นระยะเวลา 3 ปี ซึ่งธุรกิจมีการเติบโตและมีทิศทางในอนาคตที่ดีอย่างต่อเนื่อง
เบื้องต้นบริษัทมีวัตถุประสงค์ในการระดมทุนนำเงินไปใช้รองรับการปล่อยสินเชื่อ การขยายธุรกิจ และการพัฒนางานบริการด้านดิจิทัล เพื่อตอกย้ำการที่บริษัทจะเป็น Tech Leasing อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งบริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญและโอกาสในการพัฒนาด้านระบบดิจิทัลที่ทำให้การบริหารจัดการ การวิเคราะห์สินเชื่อ และการเข้าถึงลูกค้า ทำได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีโอกาสในการขยายการเติบโตของสินเชื่อได้มากขึ้น
สำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อของบริษัท ประกอบด้วย สินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซด์ป้ายแดง และสินเชื่อส่วนบุคคล โดยที่สัดส่วนพอร์ตสินเชื่อหลักเป็นสินเชื่อรถมอเตอร์ไซด์ป้ายแดงมากถึง 70% และส่วนที่เหลือเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล โดยการดำเนินกลยุทธ์การขยายสินเชื่อในปี 65 ในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์ จะมีการเพิ่มพนักงานขายในท้องถิ่น เพิ่มจำนวนดีลเลอร์ ควบคู่ไปกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับดีลเลอร์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานด้วยการนำระบบดิจิทัลเข้ามาใช้ในการยื่นขอสินเชื่อ ส่งเอกสาร และวิเคราะห์สินเชื่อ เพื่อทำให้การยื่นและอนุมัติสินเชื่อทำได้รวดเร็ว
ส่วนสินเชื่อส่วนบุคคล จะใช้กลยุทธ์การเพิ่มจำนวนพนักงานขาย ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ พร้อมกับการเพิ่มผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลที่ขยายฐานลูกค้ามากขึ้น โดยเจาะกลุ่มลูกค้าจากเดิมที่มีรายได้ประจำตั้งแต่ 30,000 บาท/เดือน เพื่อเพิ่มฐานลุกค้าไปสู่กลุ่มลูกค้าที่มีรายได้สูงและมีความสามารถในการกู้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการต่อยอดโอกาสในการขยายฐานลูกค้า ทำให้ผลิตภัณฑ์สินเชื่อของศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น
นอกจากนี้ นโยบายและการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของกลุ่มสินเชื่อทั้ง 2 ประเภทจะปรับเปลี่ยนนโยบายให้สอดคล้องกับความสามารถของลูกค้าและช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยในกรณีที่ลูกค้าบางรายยอมจ่ายสูงขึ้น ก็มีโอกาสในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ทำให้บริษัทสามารถเปิดรับลูกค้าที่มีความสามารถในการกู้ยืมที่หลากหลายเข้ามาช่วยให้ลูกค้าที่ต้องการใช้สินเชื่อเข้าถึงสินเชื่อได้ง่าย และทำให้สินเชื่อของศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล เติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินเชื่อปล่อยใหม่
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าสินเชื่อปล่อยใหม่ในปี 65 เติบโต 60% จากปีก่อนที่ปล่อยสินเชื่อใหม่ไปกว่า 5 พันล้านบาท หรือเติบโต 150% ในปี 64 โดยในปีนี้บริษัทคาดว่ายอดสินเชื่อคงค้างในพอร์ตจะเพิ่มขึ้นมาแตะระดับ 1 หมื่นล้านบาท
ขณะเดียวกันบริษัทยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพของลูกหนี้ ซึ่งยังคงมีการควบคุมคุณภาพของพอร์ตลูกหนี้เป็นอบ่างดีต่อเนื่อง จะเห็นได้จากระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของบริษัทในปี 64 อยู่ที่ระดับใกล้เคียง 2% ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างต่ำมาก และยังคงวางเป้าหมายควบคุม NPL ในปี 65 ให้ไม่เกินระดับ 2%
ด้านการเดินหน้าไปสู่การเป็น Tech Leasing นั้นนอกจากการพัฒนาด้านระบบดิจิทัลในการดำเนินธุรกิจ บริษัทยังมีความสนใจเข้าไปสู่การนำเสนอผลิตภัณฑ์เกี่ยวข้องกับสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล บริษัทมีความสนใจยื่นขอใบอนุญาตกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น วงเงินให้สินเชื่อสูงสุดที่ 20,000 บาท ระยะเวลาในการผ่อนชำระไม่เกิน 6 เดือน เป็นอีกหนึ่งโอกาสในการต่อยอดผลิตภัณฑ์บริการทางสินเชื่อของศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล รวมถึงการศึกษาโอกาสในการใช้ระบบบล็อกเชนหรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะเข้ามาสร้างโอกาสใหม่ๆทางธุรกิจเพิ่มเติมในอนาคต