โลกของสินทรัพย์ดิจิทัล (Cryptocurrency) และการเงินแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Finance : DeFi) ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนเรามากขึ้นทุกวัน แต่ด้วยการใช้งานในปัจจุบันที่ยังเข้าถึงยาก และต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจทางด้านเทคโนโลยี ทำให้มีกลุ่มคนเพียงแต่หยิบมือที่สามารถใช้ประโยชน์จากโลก DeFi ได้อย่างเต็มที่
เป็นที่มาในการก้าวเข้ามาของธนาคารรายใหญ่อย่างค่าย "กสิกรไทย" ผ่านกลุ่ม บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ที่ได้จัดตั้งบริษัทใหม่ในกลุ่มเพิ่มอีก 1 บริษัทมารองรับธุรกิจในโลกดิจิทัลในอนาคต คือ บริษัท KASIKORN X จำกัด (KX) ทำหน้าที่เป็น Venture Builder หรือเสมือนโรงงานที่ผลิต Startup หรือธุรกิจใหม่ ๆ ที่ปฏิบัติการเป็นอิสระ มีเป้าหมายในการผลิตธุรกิจด้าน Decentralized Finance and Beyond
KASIKORN X จำกัด หรือ KX แสดงจุดยืนในการรุกตลาด DeFi พร้อมประกาศเปิดตัว "Coral Platform" www.coralworld.co แพลตฟอร์ม "NFT Marketplace" ที่จะมาเขย่าวงการศิลปะแบบเดิม ๆ แพลตฟอร์มจากผู้เล่นรายใหญ่ในวงการการเงิน ที่จะทำให้คนทั่วไปได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งาน และเข้าสู่โลก DeFi ได้ง่ายขึ้น
*KX บุกตลาด "DeFi" ดัน "Coral" ซื้อขายบน NFT
นายธนะเมศฐ์ อาริยวัฒน์ Head of Venture Builder แห่งค่าย KASIKORN X เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า เป้าหมายของ KASIKORN X ต้องการเข้ามาเจาะตลาด DeFi เพื่อดึงประโยชน์จากเทคโนโลยีการเงินแบบ DeFi เข้าสู่กลุ่มคนจำนวนมาก เป็นที่มาของ "Coral Platform" ที่ถูกสร้างมาภายใต้คอนเซ็ปต์ "Super Simple NFT Marketplace" ตอบโจทย์การใช้งานที่ง่ายทั้งสำหรับผู้ซื้อ ผู้ขาย และเป็นใบเบิกทางให้แก่ผู้ใช้งานทั่วไป ให้ได้เข้าถึงโลก DeFi มากขึ้น
ช่วงแรกทาง "Coral Platform" จะมุ่งเน้นที่ Primary Market (เจ้าของผลงานแลกเปลี่ยนกับผู้ซื้อ) จากนั้นจะขยับมาที่ Secondary Market (ผู้ที่มี NFT สามารถเอามาขายต่อให้ผู้ซื้อคนอื่นต่อ)
"ทุกวันนี้มีเพียงกลุ่มคนแค่ 1% ที่เข้าถึงและสามารถใช้งานเทคโนโลยีจากโลก DeFi ได้ หน้าที่ของ KASIKORN X คือการที่เราจะดึงพลังนั้นให้เข้าถึงกลุ่มคนอีก 99%"นายธนะเมศฐ์ กล่าว
*Coral Platform แตกต่าง Marketplace อื่นอย่างไร ??
นายธนะเมศฐ์ ระบุว่า ปัญหาใหญ่ของโลกศิลปะในทุกวันนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องลิขสิทธิ์ที่ศิลปินต่างต้องพบเจอเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นการก็อปปี้ผลงาน หรือการนำผลงานไปแอบอ้างเป็นของตน ในโลก DeFi ก็เช่นกัน แต่ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดบน "Coral Platform" เนื่องจากแพลตฟอร์มจะมีการยืนยันตัวตนของศิลปินว่าผู้ที่มีผลงานเป็นเจ้าของผลงานที่แท้จริงหรือไม่ ในขณะที่ผู้ซื้อเองก็มั่นใจได้ว่าได้รับผลงานที่มาจากเจ้าของผลงานจริง ๆ
อีกทั้งแพลตฟอร์มจะช่วยแปรรูป (Minting) ผลงานให้เป็น NFT และแสดงค่าใช้จ่ายในการดำเนินกาน ทำให้ผู้ขายสามารถรู้ถึงต้นทุนการขายได้
หากเทียบกับ "NFT Marketplace" อื่น ๆ จะพบว่า "Coral Platform" มีจุดแข็งที่แตกต่างออกไป และนับว่าเป็นการเปิดมิติใหม่ในโลก NFT นั่นคือบน "Coral Platform" สามารถใช้ Fiat Money ซื้อผลงาน NFT ได้ โดยผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องใช้ Cryptocurrency ซื้อ NFT เพียงอย่างเดียว ซึ่งนับว่าเป็นจุดที่เชื่อมต่อให้คนอีก 99% ที่ยังเข้าไม่ถึงโลก DeFi สามารถใช้งานได้ง่ายและปลอดภัย
"Coral Platform มีจุดยืนที่ชัดเจนในการให้บริการที่ง่ายต่อการใช้งาน และยึดถือความปลอดภัยเป็นหลัก เพื่อดึงกลุ่มคน 99% ที่ยังไม่คุ้นชินกับโลก DeFi ให้เชื่อมต่อถึงกัน ด้วยผลงานศิลปะที่ทุกคนบนโลกสัมผัสและเข้าถึงได้ และเมื่อมีนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้น ผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดก็คือผู้บริโภค จะมีผู้คนมากมายที่ได้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนที่กำลังศึกษา DeFi หรือว่าแม้แต่คนที่ไม่รู้จักเลย"นายธนะเมศฐ์ กล่าว
https://youtu.be/mMC2sTSZYaQ