นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า ธนาคารมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าครบวงจร ทุกกิจกรรมหลักในชีวิตประจำวัน รวมถึงการออมและการลงทุน ล่าสุด ธนาคารเตรียมออกและเสนอขายตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Depositary Receipt : DR) อ้างอิงหุ้นสามัญต่างประเทศเป็นครั้งแรกในประเทศ โดยเป็นหุ้นสามัญของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก อย่าง อาลีบาบา (Alibaba) และเท็นเซ็น (Tencent) เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทย โดยเฉพาะรายย่อย สามารถลงทุนหุ้นต่างประเทศชั้นนำได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเหมือนหุ้นทั่วไป โดยไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นต่างประเทศ
การออกและเสนอขาย DR ครั้งนี้ นับเป็นการยกระดับการลงทุน และลดข้อจำกัดการลงทุนหุ้นต่างประเทศของนักลงทุนไทยในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะการเข้าถึงการลงทุน เพราะการลงทุนหุ้นต่างประเทศปัจจุบันมีความยุ่งยาก ซับซ้อน ต้องเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ มีการกำหนดขั้นต่ำในการลงทุน และมีค่าธรรมเนียมซื้อขายสูง แต่ DR สามารถลงทุนผ่านบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีอยู่ได้ทันที ลงทุนขั้นต่ำเพียง 1 DR และซื้อขายเป็นเงินบาท เป็นการตัดปัญหาเรื่องการแลกเปลี่ยนสกุลเงินตราต่างประเทศ ทำให้การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป โดยธนาคารในฐานะผู้ออก DR จะทำหน้าที่ซื้อหลักทรัพย์ต่างประเทศแล้วนำมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมจะทำหน้าที่ติดตามข่าวสารอัพเดตให้กับนักลงทุน เมื่อหุ้นอ้างอิงต่างประเทศจ่ายเงินปันผล ก็จะส่งผ่านเงินปันผลหลังหักค่าใช้จ่ายให้กับผู้ถือ DR
ทั้งนี้ ธนาคารประเมินว่า หุ้น Alibaba และ Tencent มีความน่าสนใจ เพราะเป็นหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนไทยและนักลงทุนทั่วโลก มีสภาพคล่องสูง โดยเฉลี่ยมีมูลค่าการซื้อขายต่อวันสูงสุดติด 5 อันดับแรกของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงมาโดยตลอด อีกทั้งในปี 64 ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ราคาหุ้นตลาดฮ่องกงได้ปรับฐานลงมาอยู่ในจุดที่ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะราคาที่ปรับลงสะท้อนข่าวร้าย (Price-in) ไปค่อนข้างมากแล้ว
ปัจจุบัน KTB ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์( ก.ล.ต.) ให้เป็นผู้ออก DR เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการยื่นไฟลิ่งที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม คาดว่า จะมีการเสนอขายให้กับนักลงทุนทั่วไป (IPO ) ภายในต้นปี 65 และนอกเหนือจาก DR ที่อ้างอิงหุ้น Alibaba และหุ้น Tencent แล้ว ธนาคารยังมีแผนที่จะออก DR อ้างอิงหุ้นและ ETF ชั้นนำในตลาดอื่นๆ อีก เพื่อช่วยเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยมีทางเลือกในการลงทุนรอบโลกที่หลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น