(เพิ่มเติม) ACAP ใกล้สรุปขายหุ้น PP ให้พันธมิตร 2-3 ราย/ส่งแคปปิตอลโอเคเข้าตลาดฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 9, 2007 14:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          บมจ.เอแคป  แอ๊ดไอเซอรี่ (ACAP)เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างการเจรจาขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง( PP)ที่เหลือให้กับพันธมิตร 2-3 ราย ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปี 50 โดยเชื่อว่าจะกำหนดราคาขายไม่ต่ำกว่า 7 บาท/หุ้น
นายวิวัฒน์ วิฑูรย์เธียร กรรมการผู้จัดการ ACAP กล่าวว่า การเข้ามาซื้อของพันธมิตรดังกล่าว แต่ละรายจะซื้อไม่เกิน 25% จากปัจจุบันที่บริษัทเหลือหุ้นเพิ่มทุนที่จะเสนอขาย 75 ล้านหุ้น โดยราคาที่จะเสนอขาย PP จะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 7 บาท สูงกราคาในกระดานที่ 6.50-6.75 บาท/หุ้น
เมื่อเวลา 14.32 น. ราคาหุ้น ACAP อยู่ที่ 6.30 บาท
สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้ในการซื้อ บริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด
"การเพิ่มทุนดังกล่าว ยอมรับว่าจะทำให้ฟรีโฟลทปรับตัวลดลงต่ำมาอยู่ที่ 10.51% ต่ำกว่าเกณฑ์ของตลาด แต่เราเชื่อว่าในอนาคตเมื่อเรามี CAP OK แล้วจะทำให้ฟรีโฟลทกลับขึ้นตามเกณฑ์ได้ และยืนยันว่าจะไม่มีกลุ่มพันธมิตรรายใดเข้ามา control การทำงานของเรา" นายวิวัฒน์ กล่าว
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า ความร่วมมือกับกลุ่มบริษัท ORIX Corporation(ORIX) เข้าซื้อกิจการบริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด(CAP OK) คาดว่า จะส่งผลดีต่อทั้งกำไรและรายได้ของ ACAP ในปี 51 ที่น่าจะเติบโตได้ 20-30% และบริษัทยังมีแผนจะนำ CAP OK เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงปี 51-52
อนึ่ง ACAP ได้ร่วมกับกลุ่ม ORIX จากญี่ปุ่นเข้าซื้อหุ้น CAP OK จากบมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น(SHIN) 99.99% ของทุนจดทะเบียน 7.5 พันล้านบาท ในราคา 990 ล้านบาท ซึ่งจำนวน 700 ล้านบาทเป็นการชำระหนี้ให้กับ SHIN
หลังจากที่ผู้ถือหุ้นมีมติเห็นชอบการซื้อหุ้น CAP OK ในวันนี้แล้ว ก็จะมีการเซ็นสัญญาซื้อขายหุ้นในเดือนพ.ย.นี้ รวมทั้งจะมีการโอนสินทรัพย์ และ รายได้จาก CAP OK เข้ามาด้วย ในอนาคตเมื่อ CAP OK มีผลกำไร ก็จะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยคาดว่าจะเห็นในราว 2551-2552 และการลงทุนใน CAP OK จะคืนทุนได้ภายใน 1 ปีครึ่ง
**เล็งประมูลหนี้เพิ่มเป็น 4 หมื่นลบ.เพื่อบริหาร
นายวิวัฒน์ กล่าวว่า ปีหน้าจะเข้าไปประมูลสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเข้ามาบริหารเพิ่ม เพื่อทำให้รายได้และกำไรเติบโตขึ้นสูงในอัตรา 20-30% จากปีนี้ที่มีรายได้ทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้ 300 กว่าล้านบาท โดยบริษัทมีแผนซื้อสินทรัพย์ฯ เพิ่มจากปัจจุบันที่มีมูลค่ารวม 2.2 หมื่นล้านบาท โดยบริษัทจะพยายามให้มีสินทรัพย์ฯ เพื่อบริหารประมาณ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่ารายได้จากการบริหารสินทรัพยหนี้ด้อยคุณภาพจะมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นในปีหน้า
"ถึงแม้เราซื้อ CAP OK แล้วจะทำให้เราโดดเด่นในแง่ของการสร้างรายได้และกำไรจากการบริหารสินทรัพย์หนี้ด้อยคุณภาพ แต่เราคงจะไม่ทิ้งธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงิน เพราะคนรู้จักเราในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน"นายวิวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

แท็ก (ACAP)  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ