นางสุนทรี จรรโลงบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เทคโนเมดิคัล (TM) เปิดเผยถึงกลยุทธ์แผนดำเนินงานทางธุรกิจสำหรับปี 65 ว่า บริษัทยังคงเดินเกมรุกในการวางกลยุทธ์เจาะตลาดผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้แล้วทิ้งสำหรับใช้ในห้องผ่าตัด รวมถึงอุปกรณ์ฆ่าเชื้อ อุปกรณ์ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านช่องขายทางการตลาดออนไลน์เพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ จากแผนดังกล่าวบริษัทจึงตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ปี 65 ราว 5-10 % หรือประมาณ 700-750 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ สามารถกลับมาจำหน่ายเข้าโรงพยาบาลรัฐ -เอกชน และ คลินิก ได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ใช้แล้วทิ้งสำหรับใช้ในห้องผ่าตัดที่กลับมาฟื้นตัว และจากเคสผู้ป่วยที่รอรับบริการผ่าตัดโดยเฉลี่ยในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นในฐานะที่ TM ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ทางการแพทย์ และ ได้รับการันตีระดับมาตรฐานสากล จึงมองว่าหลังจากนี้ความต้องการใช้อุปกรณ์ดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน
ในขณะเดียวกัน ภายในไตรมาส 1/65 บริษัทเตรียมเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ กลุ่มสินค้าประเภทเวชสำอาง อาหารเสริมบำรุงสุขภาพ รวมทั้งสินค้าประเภทพืชสมุนไพร และสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ ทั้งสบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนจ้างผลิต (OEM) ภายใต้แบรนด์ TM อาทิ สินค้าประเภทผลิตภัณฑ์เช็ดตัวสำหรับผู้สูงอายุ ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ และผ้าอ้อมผู้สูงอายุ เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายจาก OEM ในปีนี้ที่ระดับ 50 ล้านบาท เติบโตจากปี 64 ที่มีรายได้ 30 ล้านบาท
และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงเป็นตัวแปรหลักของการติดเชื้อไวรัส ส่งผลให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อและผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกัน มีความต้องการใช้สูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อ TM ที่ได้รับอานิสงค์จากยอดขายอุปกรณ์ฆ่าเชื้อและปกป้องไวรัสดังกล่าว และ TM ยังมีแผนเตรียมผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาเสริมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ บริษัทได้ให้ความสำคัญกับการขายช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ภายใต้ "TM CARE SHOP" มากขึ้น โดยล่าสุดได้เริ่มนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายใน www.Lazada.co.th จากเดิมที่ก่อนหน้านี้มีการตจำหน่ายสินค้าผ่าน www.tmcare-shop.com, facebook.com/TMCARESHOP และ Line@ : @tmcareshop เท่านั้น ในขณะเดียวกันได้เตรียมเพิ่มทีมขาย เพื่อจำหน่ายสินค้าเข้ายังร้านขายยาเวชภัณฑ์มากขึ้น โดยช่วงแรกจะบุกตลาดในเขตกรุงเทพ และ ปริมณฑล เป็นหลัก
นอกจากนี้ยังเตรียมนำผลิตภัณฑ์จากเครือสหพัฒน์ เข้ามาจำหน่ายผ่านช่องทาง TM CARE SHOP ในเร็วๆ นี้ ซึ่งจากความหลากหลายของสินค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงกลยุทธ์การเจาะตลาดออนไลน์ ส่งผลให้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายจากแพลตฟอร์มดังกล่าวในปีนี้ ที่ระดับ 10-15 ล้านบาท
นางสุนทรี กล่าวอีกว่า กรณีในปี 65 ที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ "สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์" โดยจากข้อมูลสถิติจะเห็นได้ว่า ในอัตราร้อยละ 20 ของจำนวนประชากรทั้งหมด คือสัดส่วนประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปและจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในทุกๆ ปี จึงเป็นที่มาของ TM ในการเพิ่มไลน์ธุรกิจด้วยการสร้างศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลเฉพาะทางในกรุงเทพมหานคร (กทม.) ภายใต้โครงการ THE PARENTS
ด้านความคืบหน้าของการดำเนินการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและโรงพยาบาลเฉพาะทาง "THE PARENTS" นั้น ปัจจุบันศูนย์อบรมการบริบาลผู้สูงอายุได้เปิดรับให้เข้าอบรมแล้ว โดยสามารถอบรมได้ 160 คนต่อปี ขณะที่การก่อสร้างศูนย์ดูแลผู้สูงอายุคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค.65 โดยจะเปิดให้บริการในเฟสแรกได้ในไตรมาส 3/65 ขณะที่ความคืบหน้าการก่อสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทาง คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ตามแผนในช่วงต้นปี 65 ซึ่งจะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการในเชิงพาณิชย์ได้เต็มรูปแบบภายในปี 66
ดังนั้นหาก THE PARENTS แล้วเสร็จเต็มรูปแบบ ซึ่งประกอบด้วยอาคาร Nursing Home และอาคาร Rehabilitation Hospital ซึ่งสามารถรองรับผู้ใช้บริการ 150 เตียง เพื่อรับดูแลผู้สูงอายุทุกภาวะและโรงพยาบาลเฉพาะทาง เช่น การกายภาพฟื้นฟู, การดูแลผู้สูงอายุ และดูแลผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต ซึ่งในอนาคตจะผลักดันให้ THE PARENTS เป็นศูนย์กลาง (Hub) ของภูมิภาคในการให้บริการดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจรทุกมิติ
อย่างไรก็ตาม จากแผนขยายธุรกิจดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมายจะส่งผลให้บริษัททยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจนี้เข้ามาเฉลี่ย 100-150 ล้านต่อปี โดยรายได้ดังกล่าวเข้ามาชัดเจนตั้งแต่ปี 67 เป็นต้นไปและเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มในส่วนของรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้มีความเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคตให้กับTM