(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง: เฟดส่งสัญญาณลดดบ. หนุนฮั่งเส็งปิดบวก 161.07 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 30, 2007 16:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ (30 พ.ย.) หลังมีความเป็นไปได้สูงว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. เพื่อกระตุ้นและป้องกันเศรษฐกิจสหรัฐไม่ให้เข้าสู่ภาวะถดถอย 
ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคักทั้งในตลาดวอลล์สตรีทและตลาดหุ้นในเอเชีย หลังนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ออกมาส่งสัญญาณเมื่อวานนี้ว่า อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เหลือ 1%
"ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างสมเหตุสมผลในวันนี้ เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากตลาดสหรัฐที่แข็งแกร่ง" โคนิต้า หั่ง หัวหน้าฝ่ายวิจัยจาก Delta Asia Securities กล่าว
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งปรับเพิ่ม 161.07 จุด หรือ 0.6% ปิดที่ 28,643.61 จุด หลังเคลื่อนไหวในกรอบ 28,792.30 และ 28,436.71 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 1.01 หมื่นล้านดอลลาร์ มูลค่า 1.165 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง
นางหั่งคาดว่า ดัชนีฮั่งเส็งจะปรับตัวเพิ่มอย่างต่อเนื่องในอาทิตย์หน้า โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 29,000 และ 29,500 จุด
"ถ้าเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าจริง ดัชนีฮั่งเส็งอาจปิดเหนือระดับ 30,000 จุด แต่ฮั่งเส็งไม่น่าจะปรับเพิ่มอย่างแข็งแกร่งมากนักในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า เนื่องจากใกล้จะถึงสิ้นปีเต็มทีแล้ว" นางหั่งกล่าว
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกงยังคงเป็นแกนนำในการปรับตัวขึ้นวันนี้ เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยเงินกู้จะลดลงและอุปสงค์บ้านในตัวเมืองจะเพิ่มขึ้น
อเล็กซ์ แทม นักวิเคราะห์จาก CSC Securities HK Ltd. กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงอาจกระตุ้นให้ชาวฮ่องกงถอนเงินออกมาลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์และในสินทรัพย์รูปแบบอื่นๆ
นักวิเคราะห์จำนวนมากคาดการณ์ว่า ราคาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยจะเพิ่มขึ้น 15-20% ในปีหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นและอุปทานที่ลดลง
หุ้นเฉินกง ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของมหาเศรษฐี ลี คา-ชิง ขยับขึ้น 1.7%
หุ้น HSBC ขยับลง 0.2% หลังมูดี้ปรับลดระดับความน่าลงทุนของ HSBC จากระดับ "positive" เหลือ "stable" ในขณะที่หุ้นแบงค์ ออฟ เอเชีย ขยับขึ้น 1.7% ส่วนหุ้นบีโอซี ฮ่องกง เพิ่ม 3%
หุ้นแบงค์ ออฟ ไชน่า ลดลง 1.2% และลดลงเกือบ 4.5% นับตั้งแต่ปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังเทมาเส็กขายหุ้นมูลค่ากว่า 5.71 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในธนาคารแบงค์ ออฟ ไชน่า
หุ้นไชน่า คอสโค โฮลดิงส์ เพิ่ม 2.3% หลังเมอร์ริลล์ ลินช์ ปรับเพิ่มราคาหุ้นเป็น 38 ดอลลาร์ฮ่องกง เนื่องจากคาดว่าไชน่า คอสโค จะสามารถทำกำไรได้ทะลุเป้าในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณ 2550 และ 2551
ในช่วงเช้า หุ้นไชน่า คอสโค ร่วงลงอย่างหนัก หลังมีข่าวว่าเทมาเส็กขายหุ้น 80 ล้านหุ้น ในบริษัทไชน่า คอสโค เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อระดมทุนให้ได้ถึง 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นครั้งที่สามในรอบสัปดาห์ที่เทมาเส็กขายหุ้นในบริษัทจีนเพื่อระดมทุนสำหรับการลงทุนในโครงการใหม่ๆ
นอกจากนั้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เทมาเส็กยังขายหุ้น 280 ล้านหุ้นในธนาคารไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงค์ เพื่อระดมทุนให้ได้ 2 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง
"หลังการเทขายหุ้นทั่วกระดานในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นบริษัทสหรัฐและยุโรปก็อยู่ในภาวะที่มีแรงขายเข้ามามากเกินไป เทมาเส็กจึงอาจมองหาช่องทางลงทุนในบริษัทการเงินของสหรัฐและยุโรป ซึ่งหุ้นเหล่านี้ค่อนข้างจะมีราคาถูกในตอนนี้" แคสเตอร์ ปั๋ง นักวางยุทธศาสตร์จากซันฮุงไกไฟแนนเชียลกล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ