SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,678.16 จุด ลดลง 1.86 จุด (-0.11%) มูลค่าการซื้อขายราว 49,097 ล้านบาท นัก วิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงรับปัจจัยลบต่างประเทศ ทำให้มีแรงขายทำกำไรกลุ่มส่งออก-ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สลับแรงเก็งกำไรกลุ่มแบงก์-ไฟแนนซ์-หลักทรัพย์ คาดภาพรวมจากนี้ไปจนถึง 26 ม.ค.ยังแกว่งในกรอบแนวรับ 1,645 จุด แนวต้าน 1,700 จุด แต่หากเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย-งดงบดุลเร็วชัดเจนอาจกดดันดัชนีหลุด 1,600 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,678.16 จุด ลดลง 1.86 จุด (-0.11%) มูลค่าการซื้อขายราว 49,097 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุด 1,678.78 จุด และระดับ ต่ำสุด 1,670.70 จุด
นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ภาพรวมปรับตัวลง โดยได้รับปัจจัยลบต่อเนื่องจากต่างประเทศกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยและปรับลดขนาดงบดุลเร็วขึ้นหลังอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง
ดังนั้น จึงมีแรงขายหุ้น Valuation แพงเพื่อทำกำไรออกมาก่อน โดยเฉพาะกลุ่มส่งออก และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่หุ้น Vulue play เช่น กลุ่มแบงก์ กลุ่มการเงิน โบรกเกอร์ เป็นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นมา คาดว่าจะเห็นภาพลักษณะนี้ไปถึง 26 ม.ค.ที่เฟดจะมีการประชุมในช่วงวันที่ 25-26 ม.ค.
ให้กรอบดัชนี SET แนวรับที่ 1,645 จุด แนวต้านที่ 1,700 จุดจนถึงวันที่ 26 ม.ค.โดยหากเฟดปรับลดขนาดงบดุลเร็วขึ้นอาจส่งผลให้มีโอกาสที่ดัชนี SET จะหลุดระดับ 1,600 จุดได้ แนะเลี่ยงหุ้นกลุ่มส่งออก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ แนะนำ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มก่อสร้าง
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
GULF มูลค่าการซื้อขาย 2,522.86 ล้านบาท ปิดที่ 50.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
SCGP มูลค่าการซื้อขาย 1,512.92 ล้านบาท ปิดที่ 63.50 บาท ลดลง 1.75 บาท
GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 1,043.23 ล้านบาท ปิดที่ 5.85 บาท ลดลง 0.10 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,042.04 ล้านบาท ปิดที่ 144.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 974.39 ล้านบาท ปิดที่ 95.00 บาท ลดลง 1.25 บาท