นายจิรศักดิ์ จิยะจันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น (WORLD) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้ฝ่ายบริหารไปพิจารณาปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงิน และผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย ตลอดจนผู้ถือหุ้น เพื่อกำหนดแนวทางในการรักษาประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ ตลอดจนยับยั้งความเสียหายใดๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการกระทำของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยจะทำหนังสือถึงกรรมการและผู้จัดการตลท.
รวมถึงพิจารณาใช้กระบวนการยุติธรรมที่เหมาะสมต่อผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการใช้ดุลพินิจอย่างไม่ระมัดระวังในการพิจารณาการพ้นเหตุเพิกถอน การขอย้ายกลับมาซื้อขายหลักทรัพย์ รวมถึงการสิ้นสภาพการเป็นบริษัทจดทะเบียน เพื่อโต้แย้งการใช้ดุลพินิจของตลท.อันจะเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น และเป็นการยืนยันว่าได้ทำตามระเบียบและมาตรฐานสากลของประเทศไทย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากคณะกรรมการบริษัทมีความเห็นร่วมกันว่า ตลท.ไม่สนับสนุนให้ WORLD กลับเข้าไปซื้อขายหลักทรัพย์ โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. เจ้าหน้าที่ ตลท.ขาดความระมัดระวังในการใช้ดุลพินิจ เนื่องจากผู้บริหารชุดปัจจุบันที่เข้ามาแก้ปัญหาของบริษัทที่ถูกหยุดพักการซื้อขายได้ใช้ความระมัดระวังอย่างเต็มที่ มีการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต มีการตรวจสอบโดยหน่วยงานต่างๆ ฉะนั้นพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่เรียกให้กรรมการบริษัทต้องชี้แจงตลอดเวลา โดยไม่เข้าใจกรรมการที่มาแก้ไขบริษัทที่เสียหาย จึงทำให้กรรมการบริษัทเห็นว่ามีวาระซ่อนเร้นเสมือนไม่ต้องการให้บริษัทกลับเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
2. การโต้ตอบโดยหนังสือของ ตลท.แตกต่างและไม่เป็นไปตามที่ได้พูดคุยกัน อีกทังหนังสือของ ตลท.มีข้อความระบุแนวโน้มว่าจะไม่อนุญาตให้บริษัทกลับไปซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยเหตุผลที่มีลักษณะการตัดสินใจโดยนำการคาดเดาเหตุการณ์ในอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้นมาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาและตัดสินสิ่งที่ได้เกิดและผ่านไปแล้ว
3. บริษัทเพียงแค่อนุมัติในหลักการให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการจำหน่ายเงินลงทุนใน WIE เท่านั้น ซึ่งตามแผนงานยังต้องมีการแต่งตั้งที่ปรึกษาฝ่ายต่างๆ เพื่อทำการศึกษาความเป็นไปได้อย่างละเอียด ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่ากรรมการบริษัทฯ อาจจะไม่อนุมัติ รวมถึงที่ประชุมผู้ถือหุ้นก็อาจจะมีมติไม่อนุมัติก็ได้เช่นกัน
WORLD ระบุว่า สาเหตุที่บริษัทยังไม่ได้เปิดเผยการเข้าทำ Share And Purchase Agreement ระหว่างบริษัทฯ และ NauticAWT Limited (NauticAWT) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เนื่องจากเป็นแค่ขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้เท่านั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังไม่มีมติที่เกี่ยวข้องกับการขายออกมาแต่อย่างใดทั้งสิ้น
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเพียงแค่มติอนุมัติหลักการสำหรับแผนงานในอนาคตสำหรับ WIE ซึ่งดำเนินโครงการนิคมอุตสาหกรรม โดยปัจจุบัน WIE ได้ขายพื้นที่และโอนกรรมสิทธิ์ส่วนใหญ่ออกไปแล้ว ขณะที่พื้นที่ส่วนน้อยที่ยังเหลือคาดว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมดได้ในปี 66 จากนั้นจะมีเพียงรายได้ในส่วนของระบบสาธารณูปโภคเท่านั้น คณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีความเห็นว่าหากขายเงินลงทุนได้ก็จะสามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนในโครงการอื่นที่สร้างผลตอบแทนมากกว่า ซึ่งนี้คือแผนงานที่เป็นประโยชน์ต่อบริษัทฯ
ฉะนั้น การที่ ตลท.จะให้บริษัทกลับไปแก้ไขตัวเลขที่ผ่านมาแล้วในอดีต เพื่อให้ตัวเลขเปลี่ยนจากการมีกำไรกลายมาเป็นขาดทุนเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเพราะจะทำให้บริษัทขาดคุณสมบัติในการกลับเข้ามาซื้อขาย (Resume Trade) ทันที ดังนั้นบริษัทจึงยังไม่เห็นด้วยที่จะให้แก้ไขข้อมูลตัวเลขกำไรสุทธิที่บริษัทฯ ของปี 63 งวด 6 เดือน ของปี 64 และงวด 9 เดือนของปี 64 ตามคำสั่งของตลท.