นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอสเซทไวส์ (ASW) กล่าวว่า ที่ผ่านมา ASW ได้ตั้งบริษัท ดิจิโทไนซ์ จำกัด ด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรทางธุรกิจอย่าง บริษัท ฟิวเจอร์คอมเพเทเร่ จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนเหรียญ Popcoin เพื่อรองรับการศึกษา และลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) รวมถึงแสวงหาโอกาสในการใช้เทคโนโลยี และแพลตฟอร์มที่ทันสมัย เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในธุรกิจให้รับกับเทรนด์อย่างมีประสิทธิภาพ
และ ASW ได้ร่วมเป็นพันธมิตรเปิดตัวเหรียญ Popcoin ซึ่งเป็นสมาร์ทมาร์เก็ตติ้งแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมิร์ช ที่เกิดจากความร่วมมือของบริษัทชั้นนำอย่าง บมจ.อาร์เอส (RS), บริษัท โฟร์ท แอปเปิ้ล จำกัด, บริษัท ฟิวเจอร์คอมเพเทเร่ จำกัด และบริษัทพันธมิตรชั้นนำแนวหน้าของไทย
"เรามองเห็นศักยภาพในการใช้เหรียญ Popcoin ซึ่งถือเป็น Utility Token ที่จะเป็นตัวกลางในการใช้งานต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม มีระบบที่น่าเชื่อถือ เป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพในการเติมเต็มความต้องการ สร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดใน Popcoin Ecosystem ทั้งแบรนด์ ผู้สร้างคอนเทนต์ และโดยเฉพาะผู้บริโภค ดังนั้น Popcoin จึงไม่ใช่แค่เหรียญคริปโทเคอร์เรนซีเท่านั้น แต่เป็นคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ที่เชื่อมโยงคนแต่ละกลุ่มเข้าด้วยกัน ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นแพลทฟอร์มที่มีพลังที่จะช่วยให้แอสเซทไวส์ใกล้ชิดกับลูกบ้าน และคนรุ่นใหม่ได้มากกว่าที่เคย พร้อมเข้าถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดและวัดผลได้จริง" นายกรมเชษฐ์ กล่าว
Popcoin จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญ ที่พลิกโฉมการทำกลยุทธ์ทางการตลาดของแอสเซทไวส์ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับกิจกรรม และสร้างสิทธิประโยชน์รูปแบบใหม่ๆ ให้กับลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า Kave Condo ซึ่งเป็นนักศึกษา คนรุ่นใหม่ที่มีความเข้าใจและคุ้นเคยกับการใช้สกุลเงินคริปโทฯ อีกทั้งยังสามารถนำเหรียญ Popcoin มาต่อยอดในกิจกรรมต่าง ๆ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของลูกบ้าน ซึ่งอนาคตอันใกล้ จะได้เห็นการมีส่วนร่วมดี ๆ บนแพลตฟอร์ม Popcoin เพื่อเปิดประสบการณ์การใช้ชีวิตให้กับลูกบ้านในทุกมิติ
ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการดำเนินการตามกลยุทธ์ Synergy ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกบ้านของแอสเซทไวส์ ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด และยังต่อยอดให้เกิด Ecosystem ที่ดีสำหรับทุกคน นอกจากนี้ บริษัท ดิจิโทไนซ์ จำกัด ยังวางแผนพัฒนาการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนมาต่อยอดการใช้งานให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้ โดยหลังจากที่ผ่านมาได้มีการเปิดระบบรองรับการชำระค่างวด และซื้อคอนโดมิเนียมผ่านสกุลเงินคริปโทฯ ต่างๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย
อีกทั้งขยายขีดจำกัดการชำระเงินให้มีความหลากหลาย เพื่อทรานส์ฟอร์มเข้าสู่โลกของดิจิทัลแอสเซท รองรับการเป็นองค์กรแห่ง Next Generation ได้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยสนับสนุนธุรกิจของบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สอดรับเมกะเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้น และพลิกโฉมธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ที่จำเป็นต้องมีการปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่