(เพิ่มเติม) ING เน้นลงทุน TMB ระยะยาว ถกบอร์ดบริหารสัปดาห์หน้าหารือแผนธุรกิจ-CEO

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 9, 2007 13:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นายฮานส์ แวน เดอร์ นอร์ ดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ING Group กล่าวว่า กลุ่ม ING ตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนธนาคารทหารไทย(TMB)เพื่อเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 30% เป็นการลงทุนระยะยาวอย่างน้อย 5-10 ปี โดยจะมีการพิจารณาเพิ่มสัดส่วนหุ้นเป็น 35% ในช่วง 2 ปีข้างหน้าตามข้อตกลงที่ทำไว้กับทางธนาคาร ซึ่งจะมีการตัดสินใจหลังจากได้ร่วมงานกับฝ่ายบริหารของ TMB แล้ว
นายฮานส์ ยังเชื่อมั่นว่า ทางดีบีเอส สิงคโปร์ ที่ถือหุ้น TMB ในสัดส่วน 16% จะไม่ถอนการลงทุนออกไปหลังจากกลุ่ม ING เข้ามาถือหุ้นใหญ่ ซึ่งทางกลุ่ม ING พร้อมจะทำงานร่วมกับดีบีเอส
"เป็นโอกาสที่ดีในการทำงานร่วมกัน เนื่องจากดีบีเอสเป็นธนาคารระดับโลก น่าจะประสานงานร่วมกันได้ดีมากกว่า" นายฮานส์ กล่าว
สำหรับขั้นตอนการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน TMB น่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งหากการร่วมงานกับผู้บริหาร TMB ในครั้งนี้มีความสอดคล้องกันและทำงานได้เป็นอย่างดี บริษัทก็จะตัดสินใจถือหุ้นเพิ่ม เนื่องจาก ING ต้องการลงทุนในไทยอย่างแท้จริง ไม่ได้หวังเพียงผลตอบแทนในระยะสั้น โดยคาดหวังการลงทุนใน TMB จะให้ผลตอบแทนเป็นตัวเลข 2 หลัก และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของ TMB จากปัจจุบันอยู่ในอันดับ 12-13 ให้มีลำดับที่ดีขึ้น
ส่วนกรณีของผู้บริหารธนาคารจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น คงต้องขึ้นกับการพูดคุยกันของคณะกรรมการบริหารและฝ่ายบริหาร ซึ่งจะมีการประชุมร่วมกันในสัปดาห์หน้า แต่กลุ่มก็ต้องการ CEO ที่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถและสามารถทำงานอย่างหนักเพื่อผลตอบแทนที่ดีของธนาคารในอนาคต
นายฮานส์ กล่าวว่า ธุรกิจอื่น ๆ ของ ING ที่มีอยู่แล้วในประเทศไทยนั้น เช่น ธุรกิจประกันและบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน(บลจ.) เชื่อว่าจะมีการวางแผนภายในระยะเวลา 1 เดือนก่อนสิ้นปี เพื่อทำงานร่วมกับ TMB
อย่างไรก็ตาม สำหรับบลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) เชื่อว่าจะไม่ทำงานทับซ้อนกับบลจ.ทหารไทย เนื่องจากมีจุดเด่นและฐานลูกค้าที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่หลากหลาย
ขณะที่ธุรกิจหลักทรัพย์คงยังไม่มีการลงทุนเพิ่มเติม เนื่องจากไม่ใช่ธุรกิจหลักของ ING ซึ่งการมี บล.ทีเอ็มบี แมคควอรี ถือเป็นส่วนเติมเต็มให้ธุรกิจมากกว่า
นายมาริษ ท่าราบ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปีหน้าเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ของบลจ.จะมีความหลาหลายเพิ่มขึ้นและมีช่องทางจำหน่ายที่เติบโต เนื่องจากบลจ.ไอเอ็นจีจะมีช่องทางจำหน่ายหน่วยลงทุนผ่านสาขา TMB ซึ่งมีสาขากระจายทั่วประเทศ ทำให้คาดว่าจากสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (NAV)ของบลจ.ไอเอ็นจี จะเพิ่มขึ้น 20-30% จากเป้าหมายที่ 2.04 แสนล้านบาทในปี 51

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ